สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวระหว่างการเยือนเนเธอร์แลนด์และเดนมาร์ก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอบคุณ “การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์” ของสหรัฐ ในการอนุมัติให้เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์ก สามารถมอบความสนับสนุนเป็นเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ให้แก่ยูเครน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพครั้งสำคัญ ในการทำสงครามกับรัสเซีย
ขณะที่การฝึกในทางยุทธวิธีให้แก่ทหารยูเครน ในการใช้งานเครื่องบินเอฟ-16 จะเกิดขึ้นภายในเดือนนี้ โดยฝ่ายที่เกี่ยวข้องคาดการณ์ว่า จะช่วยให้ทหารยูเครนสามารถใช้งานอากาศยานทางทหารรุ่นดังกล่าว ในสถานการณ์จริงได้ ภายในต้นปี 2567
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาร์ค รึตเตอ ผู้นำเนเธอร์แลนด์ ยังไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน ว่าจะสามารถส่งมอบเครื่องบินเอฟ-16 ให้แก่ยูเครนได้กี่ลำ และเมื่อใด ด้านนายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ผู้นำเดนมาร์ก กล่าวว่า รัฐบาลโคเปนเฮเกนพร้อมส่งมอบเครื่องบินให้แก่รัฐบาลเคียฟ 6 ลำภายในปีนี้ 8 ลำภายในปีหน้า และอีก 5 ลำภายในปี 2568
ส่วนเซเลนสกีกล่าวเองว่า กองทัพยูเครนจะได้รับมอบเครื่องบินเอฟ-16 จากพันธมิตรตะวันตก รวมทั้งสิ้น 42 ลำ เฉพาะจากเนเธอร์แลนด์
อีกด้านหนึ่ง นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัฐบาลมอสโกถือว่า เครื่องบินเอฟ-16 “คืออาวุธนิวเคลียร์” และเป็นภัยคุกคาม เนื่องจากเป็นอากาศยานที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ พร้อมทั้งเตือนว่า การสนับสนุนเช่นนี้มีแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในสมรภูมิยืดเยื้อ และรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น.
เครดิตภาพ : AFP
