เกิดเหตุประชาชนชาวอเมริกันเสียชีวิต 3 รายและป่วยหนักอีก 3 ราย หลังจากได้รับเชื้อแบคทีเรีย ‘ลิสทีเรีย’ เข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางเครื่องดื่ม ‘มิลค์เชค’ ที่จำหน่ายในร้านเบอร์เกอร์แห่งหนึ่งในเมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน
หน่วยสาธารณสุขของรัฐวอชิงตันประกาศผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2566 พบเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวอยู่ในเครื่องทำไอศกรีมของร้าน ‘ฟรูกัลส์’ ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ทำเครื่องดื่มมิลค์เชคขายในร้านด้วย โดยสาเหตุที่ทำให้มีแบคทีเรียปนเปื้อนในเครื่องและติดมากับเครื่องดื่มนั้น เนื่องจากพนักงานของร้านล้างเครื่องไม่สะอาด
เหตุการณ์แบคทีเรียปนเปื้อนอาหารและเครื่องดื่มในร้านเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-22 ก.ค. 2566 โดยเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียทำให้ผู้รับประทานล้มป่วยและภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
ทางร้านได้งดใช้เครื่องทำไอศกรีมดังกล่าวตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กระนั้น ระยะการแสดงอาการของผู้ป่วยนั้นอาจกินเวลายาวนานถึง 70 วัน หลังจากได้รับเชื้อ
ทางด้านร้านฟรูกัลส์ก็ได้โพสต์ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเพจของตัวเองว่าจะงดจำหน่ายเครื่องดื่มมิลค์เชคในร้านสาขาเมืองทาโคมาในสาขาอื่น ๆ ที่มีเครื่องทำมิลค์เชค นอกจากนี้ ยังระบุว่าจะมีการทดสอบเครื่องทำไอศกรีมและเครื่องดื่มในสาขาอื่น ๆ เพื่อค้นหาว่ามีการปนเปื้อนเชื้อลิสทีเรียหรือไม่ ซึ่งถ้าหากพบเชื้อในเครื่องใด ก็จะต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเครื่องนั้น จากนั้นก็จะทำไปทดสอบหาเชื้ออีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดเชื้อแบคทีเรีย
นอกจากนี้ ทางร้านยังได้ประกาศแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่พฤติกรรมของทางร้านได้ก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ขึ้น
ผู้ที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียลิสทีเรียเข้าสู่ร่างกายส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายและไม่มีอาการ ถ้าหากสุขภาพแข็งแรง แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์และทารกแรกเกิด จะมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนัก โดยอาการป่วยที่ปรากฏคือมีไข้, ชัก, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยหรือร่างกายเมื่อยล้าอย่างหนัก, ทรงตัวไม่ได้, คอแข็งและรู้สึกมึนงง สับสน
ตามสถิติทางสาธารณสุขของสหรัฐ แต่ละปีจะมีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้โดยเฉลี่ย 260 คน
ที่มา : insider.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES