เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) โครงการความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ‘บัตรเดียว เที่ยวทุกที่’ โดยมีหน่วยงานเข้าร่วมได้แก่ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ (อ.ส.พ.) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.)
โดยนายวราวุธ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว “บัตรเดียว เที่ยวทุกที่” เป็นโครงการฯ ที่ทั้ง 3 หน่วยงานในสังกัด ทส. ได้ร่วมกันบูรณาการในการดำเนินงานร่วมกัน โดยมุ่งหวังที่จะร่วมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 3 หน่วยงาน และส่งเสริม พัฒนางานด้านตลาดท่องเที่ยวและที่พัก ให้มีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสร้างรายได้ระหว่างหน่วยงาน นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ข้อมูลทางการตลาดควบคู่ไปกับการส่งเสริม สนับสนุนชุมชน ท้องถิ่น รวมทั้งผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ให้มีความเข้มแข็งอย่างเป็นรูปธรรมที่นำไปสู่ความยั่งยืน และก่อเกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ในอนาคต
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 3 หน่วยงานได้นำมาเข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 14 แห่ง ดังนี้ สถานที่ท่องเที่ยวขององค์การสวนพฤกษศาสตร์ (อ.ส.พ.) มีจำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย 1. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มอบสิทธิพิเศษสำหรับ ผู้ถือบัตร ดังนี้ 1.ส่วนลด 50% สำหรับค่าเข้าเยี่ยมชมสวน (สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย) และส่วนลด 30% สำหรับค่าเข้าเยี่ยมชมสวน (สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ) (ส่วนค่าธรรมเนียมยานพาหนะเก็บในอัตราปกติ) 2.ส่วนลด 5% สำหรับซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึกของ อ.ส.พ. (ที่ร่วมรายการ) 3. ส่วนลด 10 บาท สำหรับค่าเครื่องดื่มขององค์การฯ ที่ร่วมรายการ
2. สวนพฤกษศาสตร์ระยอง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร ดังนี้ 1. ส่วนลด 30% สำหรับค่าบริการเช่าเรือคายัค 2. ส่วนลด 30% สำหรับค่าบริการเช่าเรือยนต์ และ 3. สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริฯ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร ดังนี้ 1.ส่วนลด 20% สำหรับค่าเช่าเต็นท์ 2. ส่วนลด 20% สำหรับค่าเช่าที่พัก/ บ้านพัก

นายวราวุธ กล่าวว่า ในส่วนของ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) มีสถานท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย 1. สวนป่าบ้านวัดจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าที่พัก 2. สวนป่าแม่แจ่ม อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าที่พัก 3. สวนป่าแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าที่พัก 4. สวนป่าเขากระยาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าที่พัก 5. สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ อำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง ดังนี้ 1.ส่วนลด 50% สำหรับการเข้าชมกิจกรรมสาธิตห้องเรียนของช้าง (การแสดงช้าง) 2.ส่วนลด 50% สำหรับภาพวาดศิลปินช้า 3.ส่วนลด 30% สำหรับบ้านพัก ห้องพัก 4. ส่วนลด 30% สำหรับกิจกรรมนั่งช้างชมธรรมชาติ (นั่งแหย่ง) 5. ส่วนลด 15% สำหรับผลิตภัณฑ์จากกระดาษมูลช้าง 6. ส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร ณ ครัวช้างไทย
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย 1. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนสัตว์ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ) 2. สวนสัตว์เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนสัตว์ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ) 3. สวนสัตว์นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนสัตว์ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ) 4. สวนสัตว์สงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนสัตว์ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ) 5. สวนสัตว์อุบลราชธานี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนสัตว์ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ) 6. สวนสัตว์ขอนแก่น อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น มอบส่วนลด 30% สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าชมสวนสัตว์ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ)
รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ บัตรจะจำหน่ายในราคาบัตรละ 199 บาท/2 ท่าน ใช้รับสิทธิเป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมการเข้าเยี่ยมชมสถานที่และการใช้บริการอื่นๆ ตามเงื่อนไขการใช้บัตรที่กำหนด โดยสามารถใช้สิทธิได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมนี้จะเริ่มการจำหน่ายบัตรและใช้สิทธิ ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. นี้-31 ธ.ค. 2568 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โทรศัพท์ 09-3130-0682.