เมื่อวันที่ 31 ส.ค. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปรากฏการณ์ “สลายขั้ว” ทางการเมืองในขณะนี้ว่า ตนมองว่า ที่ผ่านมาการแบ่งขั้วทางการเมืองมันแรงมากในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสี หรือจะเป็นอะไร แต่ละยุคแต่ละสมัย มีการเกิดความรุนแรง มีการสูญเสียเกิดขึ้น และวันนี้เราเห็นสิ่งที่มีอุดมคติว่าจบสลายขั้ว สารพัดสีรวมกันได้หมด เพราะการเมืองนําไปสู่การเดดล็อก ทําให้มีการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ฉะนั้นพรรคการเมืองที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็คือ พรรคที่เป็นแกนนําในการจัดตั้งรัฐบาล อันนี้เหมือนเป็นราคาที่ต้องสูญเสีย หมายความว่าต้องพยายามคลี่คลายวิกฤติในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนได้รับคือการกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจ ประเทศชาติเดินหน้า พี่น้องประชาชนมีความสุข

“รัฐบาลผสมคือพรรคแกนนําไม่สามารถที่จะกําหนดอะไรได้ จะต้องแบ่งกระทรวงให้พรรคนั้นพรรคนี้ ไม่สามารถที่จะเป็นลีดเดอร์ชิพได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และพอแบ่งกระทรวงไปให้พรรคนั้นพรรคนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรคว่าจะไปจัดบุคคลอย่างไร มันเป็นขีดจํากัดของรัฐบาลผสม ซึ่งจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้เลยถ้าแลนด์สไลด์ ถ้าเกิดมีพรรคหนึ่งพรรคใดได้เกินครึ่งไปเลยไม่ต้องพึ่งพรรคอื่น แต่เมื่อเป็นรัฐบาลผสมสิ่งที่เห็น คือเสถียรภาพและเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคการเมืองนั้น จะลดลง” นายสุวัจน์ กล่าว

อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่สุดของรัฐบาล คือทําอย่างไรของไม่แพง น้ำมันจะถูกลงได้อย่างไร ไฟฟ้าจะถูกลงได้อย่างไร เพื่อทําให้ต้นเหตุของราคาสินค้าต่างๆ มีราคาลดลง และทําให้ทุกคนมีงานทํา คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทําอย่างไรนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทําอย่างไรส่งออกดีขึ้น ทําอย่างไรให้เอสเอ็มอีได้กลับมาทํางานกันอีกครั้ง ฉะนั้น ปัญหาเฉพาะหน้าของรัฐบาล คือ จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจกลับมากระเตื้อง.