นายแพทย์นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ ประธานบริษัท และผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท แททออฟ จำกัด ผู้ให้บริการ ด็อกเตอร์ แททออฟ คลินิก หรือ Dr.TATTOF เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนจะขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ซึ่งในปี66 นี้มีมูลค่ารวมประมาณ 3.1 แสนล้านบาท และคาดว่าเพิ่มเป็น 7.6 แสนล้านบาท ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทยประมาณ 7.7 ล้านคน โดยที่สัดส่วนที่ใช้บริการและศัลยกรรมความงามอยู่ที่ 23% ซึ่งถือเป็น New S-Curve ใหม่
“ประเทศไทยมีสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานระดับสากลมากที่สุดในอาเชียน นอกจากนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยที่ผ่านมาได้รับการจัดอันดับ Medical Tourism Association ให้
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยติดอันดับ 5 ของโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ทั่วโลก คือ แพทย์ไทยเก่งในหลากหลายสาขาและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติโดยเฉพาะการศัลยกรรมความงาม และการดูแลผิว รวมถึงการรักษาพยาบาลเฉพาะทาง “
สำหรับเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แบ่งเป็น ออกเป็นการศัลยกรรมความงามแบบผ่าตัด และไม่ผ่าตัด ได้แก่ การฉีดสารเติมเต็มเพื่อแก้ไขและปรับรูปหน้า การใช้เลเซอร์เพื่อการรักษาและความงาม เช่น การลบรอยแผล การลบรอยดำคล้ำ การลบรอยสัก สักคิ้ว สักปาก สักขอบตารวมถึง การใช้เลเซอร์เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้า ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจการเสริมความงามแบบไม่ผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 5 อันดับแรก จากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ

นายพงศยา ตราชูนิตย์ ผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท แททออฟ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจึงใช้ 2 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ คือ การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรอยสักที่ได้มาตรฐานรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา และประเทศไทยที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพระดับสากล และผ่านการรับรองการเป็นสถานพยาบาลระดับสากลจาก American Accreditation Commission International (AACI) โดยนำร่องสาขาแรกที่เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต หลังจากล่าสุด ได้รับรางวัล “APAC Top Performance for Tattoo Removal Treatment” ด้วยการใช้ Program PicoWay Laser เลเซอร์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก