เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้มีการจัดพิธีอำลาตำแหน่งรัฐมนตรี โดยเข้าถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อยู่บนแท่นฐานเดียวกัน และถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหารกระทรวงทุกระดับเข้าร่วมจำนวนมาก มีการนำเพลงมาร์ชกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการเผยแพร่วันนี้เป็นวันแรก รวมถึงมีการเปิดเพลง “ช่วงเวลาที่สุด” ประกอบวิดีโอการทำงานของรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ปรากฏว่านายอนุทินร้องเพลงคลอไปด้วยตลอดทั้งเพลง

นพ.โอภาส กล่าวในนามผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทุกคน ขอขอบคุณในสิ่งทีท่าน รมว.สาธารณสุข และ รมช.สาธารณสุข ทำให้กับกระทรวงสาธารณสุขตลอด 4 ปี 56 วัน ซึ่งนับเป็นรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ที่ยาวนานที่สุดในกระทรวงสาธารณสุข โดยได้สร้างสรรค์ผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีการกำกับ ชี้นำนโยบายต่างๆ รวมถึงการให้ขวัญกำลังใจตรวจเยี่ยมพื้นที่ การบริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ทำให้สามารถปฏิบัติการสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงผลักดันประเด็นสำคัญทางการแพทย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกัญชาทางการแพทย์ การฟอกไต ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน การทำงานที่ผ่านมา ได้สร้างความซาบซึ้งความผูกพัน และในโอกาสที่ทั้ง 2 ท่าน ครบวาระการทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข พวกเรามาพร้อมกันในที่นี้ ก็เพื่อแสดงความมุทิตาจิต ความยินดีในสิ่งที่ท่านได้ทำให้ เราไปเราจะระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน และจำประเด็นสำคัญเหล่านี้ ไปทำงานให้กับประชาชนต่อไปในอนาคต รวมถึงปณิธานที่ท่านได้มอบไว้ให้กับพวกเรา 

นายอนุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่าวันนี้พอมาถึงก็ใจหาย พวกเราทำงานด้วยกันมาตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ นับเป็นเวลา 4 ปีเศษๆ นับว่าเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคน จนถึงวันนี้ก็ไม่ได้มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ หรือท้อใจแม้แต่เล็กน้อย ซึ่งเป็นธรรมดา เพราะอยู่ร่วมกันคนที่เราเชื่อใจ มั่นใจ ไว้ใจแล้วก็ผูกพัน เวลาเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตนและนายสาธิต ยินดีที่ได้เข้ามาร่วมทางบริหารกระทรวงสาธารณสุข ช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะกระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงเกรด A แต่บุคลากรต่างหากที่เป็นเกรด A++ คุณภาพตั้งแต่ผู้บริหารข้าราชการอาสาสมัคร บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ตอบสนองนโยบาย ใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ นับว่าเป็นพลังบวกที่กระทรวงสาธารณสุขส่งไปยังพี่น้องประชาชน ใครก็ตามที่ได้มาอยู่กระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะเรา 2 คน ที่ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ก็รู้สึกได้ประโยชน์มหาศาลที่ได้ทำให้กับประชาชน

การทำงานจะบอกว่าหนักก็หนัก แต่ก็สนุก การประสบวิกฤติโควิด ทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ และสร้างโอกาสให้กระทรวงสาธารณสุข ทำให้ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย และมีการแสพระราชดำรัสในหลวง รัชกาลที่ 10 ถึงกระทรวงสาธารณสุข ก็ขอให้ไปอ่านกันได้ เป็นคุณภาพให้กับประชาชนทั่วประเทศไทยอย่างไม่มีวันหยุดยั้ง หลังผ่านวิกฤติ สิ่งที่เราจะเหลือไว้คือระบบการแพทย์การสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง มีคุณภาพ การให้บริการก้าวกระโดด มีความมั่นคงในหน้าที่การงานของบุคลากร ขอให้กำลังใจกับทุกท่าน ให้นำพากระทรวงสาธารณสุข เป็นที่พึ่งของประชาชน รองรับปัญหาต่างๆ เข้ามามากมาย ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคือสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งตนมั่นใจด้วยความสามารถและฝีมือว่า กระทรวงสาธารณสุขจะนำพาประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่แรกเกิด จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า จากนี้แม้ตนจากกระทรวงนี้ไปแล้ว เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ใหม่ที่กระทรวงมหาดไทย แต่ก็เป็นกระทรวงที่มีพื้นฐานเดียวกัน เพราะมีสโลแกนว่า “บำบัดทุกข์บำรุงสุข” จึงหวังว่าเราจะใช้ความผูกพัน ความสัมพันธ์ที่เรามีกันอยู่มาบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งมั่นใจว่า หากกระทรวงมหาดไทยที่ตนจะไปกำกับดูแลสามารถให้ความร่วมมือ และได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะบังเกิดผลประโยชน์แก่ประชาชนอย่างมหาศาล ดังนั้นถือว่าเรามีเป้าหมายร่วมกัน และตนดีใจที่รัฐบาลชุดนี้ ตนยังคงได้กำกับดูแลหน่วยงานที่มีความเกี่ยวเนื่อง แล้วทำงานร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุขแทบทุกๆ หน่วยงาน ทั้งกระทรวงแรงงาน  กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มีหน่วยงานและภารกิจที่สามารถลิงก์กับกระทรวงสาธารณสุขได้ และตนมั่นใจว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข คนใหม่ ซึ่งที่จริงก็ทำงานร่วมกันมานานกว่า 20 ปี ก็คงจะสามารถร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี

“ผมกราบขอบคุณ นพ.ชลน่าน ด้วย เพราะทราบว่าท่านจะเข้ามาว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเช้าวันนี้ จริงๆ เราสองคน ถ้าท่านเข้ามาเราก็คงต้องให้เกียรติท่าน แต่พอทราบว่ามีพิธีอำลาของผมสองคน ท่านก็โทรฯ มาขอให้ดำเนินการตรงนี้มา จริงๆ ไม่มีอะไร ท่านถูกโฉลกกับวันจันทร์ เลยอยากเข้ากระทรวงวันจันทร์ ไม่อย่างนั้นท่านก็จะต้องรอไปถึงวันจันทร์หน้า ส่วนตัวก็เลยบอกว่า เดี๋ยวผมหมอบให้ เดี๋ยวหลบให้เลย เพราะหมอบเก่งอยู่แล้ว แต่ท่านก็ขอให้มา และท่านว่า ไม่ควรเข้าวันนี้ เพราะ ครม. ชุดใหม่ยังไม่ถวายสัตย์ฯ อย่างไรก็ตาม ท่านเข้าใจถึงจุดเริ่มต้นที่เราสามารถเปลี่ยนผ่าน ผ่องถ่ายไปด้วยความผูกพัน และฝากให้ผมแจ้งกับทุกคนว่า ท่านจะเข้ามาด้วยไมตรีจิตและมิตรภาพและเชื่อมั่น ที่เราทุกคนได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในผลงานของกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ว่าวันนี้ขออนุญาตเรียกนายอนุทิน ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้แล้ว ตนภูมิใจที่ได้ทำงานกับนายอนุทิน และภูมิใจที่ได้ทำงานกับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ขอย้ำกับคำพูดของท่านรองนายกฯ ว่า ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะกระทรวงเป็นกระทรวงเกรด A แต่เพราะคนในกระทรวงนี้มีคุณภาพ ขอบคุณทุกความรู้ ทุกคำแนะนำ และทุกสิ่งที่ให้ในช่วงที่เข้ามาทำงาน 4 ปีกับ 56 วัน เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าสำหรับตนเองมาก ถือโอกาสตรงนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน ก็จะขออนุญาตเป็นคนของกระทรวงสาธารณสุขตลอดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง นายอนุทิน และนายสาธิต ได้กล่าวอำลากับบรรดาบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ก็ได้เดินทางออกจากห้องประชุมชั้น 2 โดยตลอดทาง มีผู้บริหารข้าราชการต่างๆ ได้นำพวงมาลัย และดอกกุหลาบแดง มามอบให้ ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถ นายอนุทินได้มีการสวมกอดกับนายสาธิต ซึ่งขณะนั้นเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า จากนั้นนายสาธิตจึงได้สวมกอด นพ.โอภาส ขึ้นรถยนต์ออกไป จากนั้นนายสาธิต ก็ได้อำลาบุคลากรอีกครั้ง แล้วขึ้นรถออกไปเช่นเดียวกัน.