เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เบญญาพัชร์ ภู่หลำ เจ้าของร้านกรีนเฮ้าส์ ริมถนนมหาจักรพรรดิ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่าต้นไม้ประดับ ไม้ดอกและไม้ด่างที่วางใส่กระถางไว้บริเวณหน้าบ้านได้หายไปหลายต้น จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกระถางเปล่ามีแต่ดิน ไม่มีต้นไม้วางอยู่

สอบถาม น.ส.เบญญาพัชร์ เล่าว่า ตอนแรกตนเองปลูกต้นบอนด่างไว้ตรงบริเวณนี้ กระทั่งมาอาทิตย์ที่แล้วมีโจรมาขโมยต้นบอนด่างไปทั้งกระถาง ตนจึงนำต้นโป๊ยเซียน สูงประมาณ 50 เซนติเมตร มาวางไว้ตรงนี้แทน กระทั่งเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา โจรได้มาขโมยต้นโป๊ยเซียนของตนไป โดยดึงแต่ต้นและทิ้งกระถางไว้ให้ดูต่างหน้า

ด้านนายอาทร จันทลี อายุ 57 ปี เจ้าของร้านขายของแช่แข็งที่อยู่ข้างๆ กัน ก็มีต้นไม้หายด้วยเช่นเดียวกัน กล่าวว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตนเองเดินออกมาจากบ้านเพื่อนำขยะไปทิ้ง สังเกตเห็นบริเวณกระถางต้นบอนสี ที่ตนเองวางไว้ มีดินกระจัดกระจายเต็มพื้น เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่า ต้นบอนสีของตนได้หายไป พร้อมกับต้นโป๊ยเซียนของร้านข้างๆ ที่วางใกล้กันก็ได้หายไปด้วย ตอนนี้ก็ต้องนำต้นไม้ที่มีราคาเอามาวางไว้ข้างในบ้าน เพื่อป้องกันคนร้ายกลับมาขโมยซ้ำ ไม่คิดว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้จะหายไป

ต่อผู้สื่อข่าวจึงเดินไปสำรวจตามร้านค้าบริเวณถนนมหาจักรพรรดิ์พบว่า ต้นไม้ด่างหรือไม้มีราคาที่วางไว้บริเวณหน้าบ้าน ได้หายไปหลายสิบหลังคาเรือนเช่นเดียวกัน โดยนางชื่นสุข ไชยสวัสดิ์ อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน ก.ไก่การ์ตูน เปิดเผยว่า ต้นสนหอม ต้นเศรษฐีเรือนนอก เศรษฐีเรือนใน และไม้ดอกต่างๆ ที่มีราคาได้หายไป ตนเองคิดว่าหัวขโมยได้เดินหยิบตามทางบ้านนั้นบ้านนี้ เพราะช่วงนี้ไม้ด่าง และบอนสีกำลังมีราคา

นางชื่นสุข กล่าวต่อว่า อีกทั้งต้นไม้ไม่ได้หายเฉพาะถนนมหาจักรพรรดิ์เส้นเดียว เพราะลูกสาวของตนที่อยู่แถวซอยตรอกข้าวหลาม ใกล้เคียงตลาดบ้านใหม่ ต้นไม้ที่วางไว้หน้าบ้านก็ได้หายไป 4 ต้น จึงคิดว่าโจรรายนี้ น่าจะตระเวนไปทั่วเมืองแปดริ้ว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวโจรรายนี้มาดำเนินคดี ตนเองรู้สึกเสียดายต้นไม้ที่ตนเองปลูกไว้ แม้จะมีราคาไม่กี่ร้อยบาทหรือกี่สิบบาท แต่ก็ไม่ควรจะมาหาย.