น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มเข็มของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 5 จำนวน 1,013 โครงการ ในพื้นที่ 11 จังหวัด วงเงินรวม 3,484.27 ล้านบาท ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ โดยให้ใช้จ่ายเงินจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ทั้งนี้ เมื่อรวมกับผลการอนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากในครั้งที่ 1-5 แล้ว ครม. ได้อนุมัติโครงการไปแล้วจำนวน 8,516 โครงการ ใน 70 จังหวัด เป็นวงเงินที่เข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 19,904  ล้านบาท คงเหลือ 6 จังหวัดที่อยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนได้แก่ ชัยนาท ราชบุรี เชียงใหม่ สุพรรณบุรี แม่ฮ่องสอน และสกลนคร

สำหรับ 11 จังหวัดที่ได้รับอนุมัติครั้งนี้ ประกอบด้วย ลำพูน 115 โครงการ วงเงิน 185.04 ล้านบาท, ลำปาง 64 โครงการ วงเงิน 298.86 ล้านบาท, เชียงราย 89 โครงการ วงเงิน 355.47 ล้านบาท, เพชรบูรณ์ 89 โครงการ วงเงิน 232.42 ล้านบาท, มุกดาหาร 246 โครงการ วงเงิน 219.04 ล้านบาท ,นนทบุรี 45 โครงการ วงเงิน 168.61 ล้านบาท, สมุทรปราการ 53 โครงการ วงเงิน 312.66 ล้านบาท, กาญจนบุรี 47 โครงการ วงเงิน 313.04 ล้านบาท, ชลบุรี 82 โครงการ วงเงิน 546.41 ล้านบาท, ระยอง 125 โครงการ วงเงิน 401.80 ล้านบาท และภูเก็ต 58 โครงการ วงเงิน 450.85 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในจำนวนทั้งหมด 1,013 โครงการ ใน 11 จังหวัด ประกอบด้วย โครงการพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยว บริการและการค้า 46 โครงการ, โครงการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร 33 โครงการ, โครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน 43 โครงการ, กลุ่มโครงการที่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 891 โครงการ คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ 36,070 คน และมีผู้ได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 3,602,819 คน และไม่น้อยกว่า 38,721 ครัวเรือน รวมทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า ทักษะและความรู้ในการประกอบอาชีพ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหมู่บ้านและชุมชน