เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) พื้นที่ อ.ด่านขุนทด เชื่อมกับ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง หลังมีมวลน้ำมหาศาลจากด้านบน ไหลลงอ่างอย่างต่อเนื่อง จนปริมาณน้ำทะลักล้นเกินความจุ ล่าสุดมีน้ำกว่า 34 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 122% ของความจุ 27 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อวานนี้มีน้ำไหลเข้าอ่าง 2.7 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ระบายออกได้เพียง 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณสันอ่างเก็บน้ำ ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย สำนักงานชลประทาน จ.นครราชสีมา อยู่ระหว่างก่อสร้างปรับปรุงประตูระบายน้ำใหม่ จากของเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม จึงต้องปรับการระบายน้ำโดยขุดคลองฝั่งขวาเปิดทางน้ำลงพื้นที่ด้านล่าง และใช้ระบบกาลักน้ำ จึงระบายน้ำได้ไม่เต็มที่นัก พร้อมกับเร่งเสริมแนวคันดินและถุงบรรจุทรายขนาดใหญ่เสริมความแข็งแรงบริเวณคลองระบายน้ำด้านล่าง ขณะที่ยังมีมวลน้ำไหลมาเติมลงอ่างอยู่ตลอดเวลา อัตราน้ำไหลเข้ามากกว่าน้ำระบาย จึงมีมวลน้ำสะสมในอ่างจำนวนมาก จนระดับน้ำเกินความจุ 122% ชาวบ้านต่างหวาดผวากลัวว่าอ่างเก็บน้ำต้านทานกระแสน้ำไม่ไหว อาจแตกชำรุดพังเสียหายได้ตลอดเวลา

นายมนัส ศรีสันเทียะ อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำ กล่าวว่า ปีนี้ปริมาณน้ำในอ่างลำเชียงไกรตอนล่างมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทราบว่ามีการระบายน้ำได้ค่อนข้างน้อย เพราะกำลังมีการซ่อมแซมประตูระบายน้ำ ขณะที่ระดับน้ำอยู่ปริ่มๆ แนวคันดินกั้นน้ำบริเวณหน้าประตูที่กำลังก่อสร้าง เกรงว่าหากยังมีมวลน้ำไหลลงอ่างอีก อาจต้านทานไม่ไหว กลัวจะเกิดรอยรั่ว แตกร้าว จนน้ำทะลักไปท่วมหมู่บ้านด้านล่าง ตอนนี้ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ เพราะยังมีฝนตกลงมาอีก

ส่วนบริเวณฝายน้ำล้นบ้านส้ม ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง พบว่า ปริมาณน้ำได้ไหลล้นฝายเก็บน้ำแล้ว มีกระแสน้ำไหลแรงมาก สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณสะพานบ้านส้ม จำนวน 6 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำที่ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ไหลไปตามคลองธรรมชาติ ไปยังปลายทางพื้นที่ อ.พิมาย โดยเร็ว.