เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายประสงค์ ทองพันธ์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบรับรองมาตรฐานข้าวและผลิตภัณฑ์ กรมการข้าวกล่าวถึงการตรวจรับรองระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว (GAP Seed) เพื่อรวบรวมและขายเมล็ดพันธุ์ควบคุมข้าวเปลือก ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติมว่า เป็นหน้าที่หลักของกรมการข้าว โดยมองในภาพใหญ่กรมการข้าวจะดูแลข้าวของประเทศทั้งระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการผลิตและแผนการตลาดของประเทศ
“บทบาทของกรมการข้าว นอกจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของประเทศแล้ว ยังมีภารกิจการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ การส่งเสริมพัฒนาชาวนาให้ผลิตเมล็ดพันธุ์ดีและการเพิ่มมูลค่าข้าว ทำอย่างไรให้เพิ่มมูลค่าข้าวได้ ไม่ว่าจะกระบวนการไหน แต่ระบบที่เราละเลยไม่ได้ก็คือการตรวจสอบรับรองมาตรฐาน เพื่อการันตีในระบบการผลิตข้าวและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ”

นายประสงค์ กล่าวต่อว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่สำคัญ ถ้าหากเริ่มต้นที่ถูกต้องด้วยเมล็ดข้าวพันธุ์ดีก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ถูกทางของเกษตรกรในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและเป็นยกระดับคุณภาพของข้าวอีกด้วย เพราะฉะนั้นเมล็ดพันธุ์ถือเป็นงานหลักของกรมการข้าวที่จะต้องดูแลทั้งระบบ เมล็ดพันธุ์ที่เราต้องใช้ในประเทศ ถ้าคิดจากปริมาณพื้นที่ปลูกข้าวทั้งประเทศกว่า 60 ล้านไร่ในฤดูนาปีและนาปรังอีก 10 ล้านไร่ ซึ่งก็จะใช้เมล็ดพันธุ์อยู่ที่ ประมาณ 1.3 ล้านตันต่อปี ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่งเกษตรกรก็จะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 6 แสนตันเป็นหน้าที่ของกรมการข้าวในการจัดหาดูแลเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ
นายประสงค์ ยังได้ระบุอีกว่า ปัจจุบันการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรมาจาก 5 แหล่ง ประกอบด้วย กรมการข้าว โดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ตั้งกระจายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ จะผลิตเมล็ดพันธุ์ได้ประมาณ 8.5 หมื่นถึง 1 แสน ตันต่อปี รวมถึงศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชน สหกรณ์การเกษตรและภาคเอกชน สมาคมหรือชมรมผู้ผลิตและรวบรวมเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมารองรับในส่วนนี้

“ปัจจุบันเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ขับเคลื่อนได้จริง ๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ในมือภาคเอกชน สมาคม/ชมรมผู้ผลิตและรวบรวมเมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งในส่วนนี้เราจะปล่อยให้เขาทำเองไม่ได้ เพราะถ้าเมล็ดพันธุ์ไม่ได้คุณภาพและมาตรฐานความเสียหายก็จะตกแก่พี่น้องชาวนา กรมการข้าวจะต้องเข้าไปกำกับดูแล ไม่ว่าศูนย์ข้าวชุมชน สหกรณ์การเกษตร ภาคเอกชน สมาคมฯ ตลอดจนร้านค้าจำหน่ายเมล็ดพันธุ์จะต้องจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติมของกรมวิชาการเกษตร” ผอ.กองตรวจสอบรับรองมาตรฐานข้าวและผลิตภัณฑ์ กรมการข้าวกล่าว
อย่างไรก็ตามการดำเนินการตรวจติดตาม ควบคุม กำกับ ดูแล และตรวจสอบสถานประกอบธุรกิจเมล็ดพันธุ์ข้าวนั้นเป็นหน้าที่ของสารวัตรข้าว กรมการข้าวในการดำเนินการติดตามตรวจสอบสถานที่รวบรวมเมล็ดพันธุ์ควบคุม เพื่อการค้าทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 500 แห่ง และร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ควบคุมอีกกว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ ขณะเดียวกันในระดับของศูนย์ข้าวชุมชน สหกรณ์การเกษตร สมาคม ชมรม ผู้ประกอบการธุรกิจเมล็ดพันธุ์ข้าวนั้นกรมการข้าวได้มีการส่งเสริมให้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยการตรวจรับรองตามหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับเมล็ดพันธุ์ข้าว : GAP Seed (มกษ.4406) โดยมีเป้าหมายในฤดูกาลผลิต ปี 2564 คือ ตรวจรับรองสถานที่รวบรวมเมล็ดพันธุ์ควบคุม เพื่อการค้า จำนวน 10 แห่ง ตรวจรับรองกลุ่มเกษตรในนาแปลงใหญ่ หรือศูนย์ข้าวชุมชน จำนวน 136 กลุ่ม และตรวจรับรองกลุ่มเกษตรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของกรมการข้าว จำนวน 306 กลุ่ม โดยมีเป้าหมายให้ได้ผลผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี จำนวน 15,000 ตัน

“กรมการข้าวเองจะไปใช้กฎหมายควบคุมอย่างเดียวไม่ได้ เราทำการส่งเสริมคู่ขนานกันไป เข้าไปส่งเสริมให้เขาผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ได้ตามมาตรฐาน กรมการข้าวเราทำแผนการผลิตร่วมกันตามนโยบายของท่านอธิบดีอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร ซึ่งท่านก็ได้เชิญผู้ประกอบการศูนย์ข้าวชุมชนและผู้เกี่ยวข้องมาวางแผนการผลิตร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้เมล็ดพันธุ์ข้าวเพียงพอกับความต้องการของตลาด”
นายประสงค์ ยังกล่าวถึงปัญหาการบริหารจัดการเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยย้ำว่าส่วนหนึ่งมาจากความต้องการของตลาดที่ไม่สอดคล้องกับเมล็ดพันธุ์ที่มีอยู่ในสต๊อก ซึ่งปัจจุบันตลาดผู้บริโภคต้องการข้าวพื้นนุ่มมากขึ้น ขณะที่เมล็ดพันธุ์ยังผลิตได้น้อย ทำให้เกิดปัญหาซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนแผนการผลิตต่อไป

“บางปีความต้องการพันธุ์ของเกษตรกรกับการวางแผนการผลิตเมล็ดพันธุ์ไม่สอดคล้องกันก็จะเป็นปัญหาด้านการบริหารจัดการไม่ว่าภาคส่วนผู้ประกอบการหรือกรมการข้าวเอง อย่างทุกวันนี้ ตลาดต่างประเทศต้องการข้าวพื้นนุ่ม ผู้ส่งออกร้องขอมา ขณะที่เรามีเมล็ดพันธุ์อยู่ในสต๊อคไม่ตรงกับทิศทางของตลาด การเปลี่ยนไปตรงนี้ทุกภาคส่วนทั้งเกษตรกร ภาคเอกชนและกรมการข้าวเองจะต้องมาร่วมกันบริหารจัดการเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดให้มากที่สุด” นายประสงค์กล่าว.