นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมมอบนโยบายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งรัดเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ให้เสร็จโดยเร็ว โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 68 การเจรจาเอฟทีเอจะต้องคืบหน้าให้ได้ 80% โดยเฉพาะเอฟทีเอที่เจรจาอยู่จะต้องปิดดีลให้ได้ทั้งหมด ทั้งไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี รวมถึงไทย-ศรีลังกา ขณะนี้ที่ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) มีเป้าหมายจบการเจรจาในปี 68

นอกจากนี้ จะต้องเปิดเจรจากับคู่ค้าใหม่ๆ เช่น ไทย-ภูฎาน ไทย-เกาหลี ไทย-อิสราเอล รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้ากับมาเลเซีย กัมพูชา ลาว จีน และสหราชอาณาจักร หรือยูเค เพื่อแก้ไขอุปสรรคทางการค้า และการลงพื้นที่ในต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ตลอดจนการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับภาคเศรษฐกิจ

นายนภินทร กล่าวว่า ยังมอบหมายให้กรมเจรจาฯ ช่วยส่งเสริมการค้าขายบริเวณด่านชายแดน โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานภายนอก เช่น กรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หน่วยงานภายในจังหวัด และสมาคมการค้าในต่างประเทศของประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น เพื่อสนับสนุนข้อมูลการค้า การใช้สิทธิประโยชน์เอฟทีเอ แก้ไขอุปสรรคการค้าระหว่างประเทศ และจัดงานแสดงสินค้าด่านชายแดนของไทย อาทิ ด่านแม่สอด จ.ตาก ด่านแม่สาย จ.เชียงราย ด่านในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมได้เร่งดำเนินภารกิจสำคัญ ได้แก่ การหาข้อสรุปเอฟทีเอ ที่อยู่ระหว่างเจรจา อาทิ ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทย-ศรีลังกา และไทย-เอฟตา และเปิดการเจรจาเอฟทีเอกับประเทศและกลุ่มประเทศใหม่ๆ รวมทั้งเจรจาผ่านการประชุมเจทีซี เพื่อสร้างพันธมิตรด้านเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า นอกจากนี้ กรมยังได้สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องเอฟทีเอ ให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนการขับเคลื่อนให้เกิดการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดตลาดการค้าเสรีอีกด้วย