ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานตะเคียนและสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 5 ต.ค. 2566 ซึ่งเป็นคืนแรก ในช่วงเย็นถึงค่ำ ได้เกิดฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนต้องเลื่อนพิธี ซึ่งเดิมกำหนดให้นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช คนใหม่ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี


อย่างไรก็ตามหลังจากฝนหยุดตกในช่วงหัวค่ำ กลับมีนักท่องเที่ยวและประชาชนจำนวนนับพันคนแห่เดินทางมาเที่ยวชมบริเวณงานและเลือกจับจ่ายใช้สอย รับประทานอาหารพื้นบ้าน ขนมโบราณกันอย่างคึกคัก ในขณะที่มีการแสดงมหรสพดนตรี “รำวงเวียนครกลูกทุ่งกลองยาว” นักท่องเที่ยว ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าหลายร้อยคนร่วมเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานสุดขีด เนื่องจากบรรดาเด็ก 4-5 คน นำโดย “น้องจิมมี่ และน้องเดือนสิบ (น้องเอวา)” ซึ่งเป็น 2 เด็กน้อยอายุ 8 ขวบ ที่คลุกคลีอยู่กับหุ่นเปรตเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรรมราช ต่อเนื่องมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ได้เข้าไปอยู่ในหุ่นเปรตทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ออกมาร่วมเต้นรำปะปนกับนักท่องเที่ยวและประชาชนอย่างสนุกสนานสุดเหวี่ยง และยังตื่นตาตื่นใจกับการ “จุดตะเกียงจ้าวพายุ” โดยร้าน “เพรียว วาดศิลป์” ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน

ในช่วงสุดท้ายเป็นการแสดงของคณะมโนราห์ ดร.ไข่เหลี้ยม วิเชียรศรชัย ซึ่งเป็นการร่ายรำบนเวทีแกะดิน ตามแบบฉบับมโนราห์โบราณ เป็นครั้งแรกในชีวิต ท่ามกลางแฟนคลับล้นหลาม ซึ่งการร่ายรำประยุกต์ผสมผสานระหว่างท่ารำโบราณที่ผสมผสานกับท่ารำในยุคปัจจุบัน ท่ามกลางความสนุกสนาน ตื่นเต้นและเร้าใจกับชุดการร่ายรำ และแสดง “โนราแทงเข้” นอกจากนี้ยังมีพ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่ลูกเป็นใบ้พูดไม่ได้ มาให้โนราไข่เหลี้ยมประกอบพิธี “เบิกปาก” ตามความเชื่อโบราณ รวมทั้งการประกอบพิธี “เหยียบเสน” ให้กับเด็ก ๆ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีการปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพชน เพราะการเป็นเสนแล้วไปรักษาทางวิทยาศาสตร์ หรือรักษาด้วยเลเซอร์ก็ไม่หาย ต้องให้มโนราห์ใหญ่เหยียบให้เท่านั้น ปิดท้ายด้วยเหล่าแฟนคลับแห่ขอเช่า “กำไลโนรา” จากมโนราห์ไข่เหลี้ยม ซึ่งเป็นโนราระดับบรมครู เชื่อว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ใครมีหรือได้สวมใส่ “กำไลโนรา” จะแคล้วคลากดปลอดภัย มีโชคลาภ และดีในด้านการค้าขาย


โดยงานนิทรรศการประกวด “หุ่นเปรต-พาเหรดเปรต”จะมีต่อเนื่องไปจนถึงแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ ซึ่งเป็นวันสุดทม้ายที่บรรพบุรุษ บรรพชนทั้งหลายจะถูกนรกภูมิเรียกกลับไปชดใช้กรรมหลังจากปลดปล่อยขึ้นมายังโลกมนุษย์ 15 ราตรี ระหว่างวันแรม 1 ค่ำ-แรม 15 ค่ำ เดือนสิบ ในปีนี้อยู่ระหว่าง วันที่ 30 ก.ย.-14 ต.ค. 2566 โดยในวันแรม 13 ค่ำ ตรงกับวันที่ 12 ต.ค. 2566 จะมีขบวนพาเหรดเปรตจากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร มายังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นขบวนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น ยิ่งใหญ่อลังการ.