สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันมีความวิตกกังวลอย่างยิ่ง ต่อการที่ “นักรบตัวแทนอิหร่าน” ยกระดับการโจมตีต่อบุคลากรทางทหาร และพลเรือนสหรัฐ” สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่รัฐบาลวอชิงตันถือว่า “เป็นเจตนากระตุ้นความรุนแรง” และเตือนว่า “สหรัฐพร้อมตอบโต้หากจำเป็น”
ขณะที่ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า กำลังพลของอเมริกาในตะวันออกกลาง กำลังตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา หากประเทศใดหรือกลุ่มไหน กำลังพยายามแสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ สหรัฐขอเตือนว่า “อย่าเด็ดขาด” สื่อเป็นนัยถึงอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
.@SecBlinken says the U.S. is "concerned at the possibility of Iranian proxies escalating their attacks against our own personnel" amid the ongoing war in the Middle East.
— Face The Nation (@FaceTheNation) October 22, 2023
"We're taking every measure to make sure that we can defend them and if necessary, respond decisively." pic.twitter.com/UNqahCT5jJ
ทั้งนี้ นายฮอสเซ็น เอเมียร์-อับโดลลาเฮียน รมว.การต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า รัฐบาลเตหะรานขอเตือนสหรัฐและอิสราเอล ว่าหากยังไม่ยุติการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนในฉนวนกาซา “อะไรก็เกิดขึ้นได้” และ “ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม” ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคยิ่งรุนแรง และลุกลามยากเกินควบคุม
After detailed discussions with @POTUS on recent escalations by Iran & its proxy forces across the Middle East, I directed a series of additional steps to further strengthen DoD posture in the region.https://t.co/yTE6JyqsIt
— Secretary of Defense Lloyd J. Austin III (@SecDef) October 22, 2023
อนึ่ง สหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพร้อมกองเรือติดตาม เข้าไปประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้กับชายฝั่งของอิสราเอลแล้ว 2 ลำ คือ “ยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์. ฟอร์ด” และ “ยูเอสเอส.ดไวต์ ดี.ไอเซนฮาวร์” และเตรียมส่งระบบป้องกันขีปนาวุธ ในบริเวณพิกัดตำแหน่งสูง หรือ “ทาด” และระบบป้องกันแพทริออต ไปประจำการเพิ่มเติมในตะวันออกกลางด้วย.
เครดิตภาพ : AFP