เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 นายวันชัย สอนศิริ สว.ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึง กรณีที่นายนิกร จำนง ในฐานะประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เตรียมเสนอกรรมการประชามติชุดใหญ่ วันที่ 24 พ.ย. เพื่อเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มาตรา 13 ว่าด้วยหลักเกณฑ์ผ่านประชามติ ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ เพราะหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน มาตรา 13 ถูกพิจารณาด้วยความรอบคอบ ทั้งนี้ตนในฐานะอดีต กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ มองว่าหลักเกณฑ์ที่ใช้เป็นกติกาให้การทำประชามติผ่าน ทั้งประเด็นต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิและเกณฑ์ผ่านประชามติที่ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธินั้นจะทำให้การทำประชามติเรื่องใดๆ นั้นได้รับการยอมรับ เช่น กรณีที่มีการทำประชามติสอบถามถึงการเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศ จำเป็นต้องได้รับเสียงเห็นชอบที่ได้รับการยอมรับ จึงจะถือว่าชอบธรรม
เมื่อถามว่า หากไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไข กมธ.การเมืองจะทำหนังสือหรือความเห็นแย้งไปยังกรรมการประชามติหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า ต้องรอหารือในที่ประชุม กมธ.การพัฒนาการเมือง ที่คาดว่าจะมีการนัดประชุมสัปดาห์หน้า แต่หากระหว่างนี้มีการสอบถามความเห็น จะนำเสนอประเด็นตอบกลับไป
“ผมมองไม่เห็นว่าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 13 ของกฎหมายประชามติจะเป็นเดดล็อกที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ผ่านเพราะหากมีการรณรงค์ให้กว้างขวาง เชื่อว่าจะทำให้คนออกมาใช้สิทธิได้ตามเกณฑ์ และหากคิดจะแก้ พ.ร.บ.ประชามติ ผมเกรงว่าเป็นการคิดประเด็นปลีกย่อยที่อาจทำให้การทำประชามติไม่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญด้วย” นายวันชัย กล่าว
เมื่อถามถึง ข้อถกเถียงถึงกระบวนการแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติว่าต้องเป็นไปตามขั้นตอนปกติหรือใช้ กมธ.ร่วมกันของรัฐสภา เพราะที่มาถือเป็นกฎหมายในหมวดปฏิรูปประเทศ นายวันชัย กล่าวว่า ตนมองว่าหากต้นทางใช้วิธีพิจารณาตามกระบวนการของกฎหมายปฏิรูปประเทศ ดังนั้นการแก้ไขควรเป็นไปตามกระบวนการเดิมคือใช้ กมธ.ร่วมกันของรัฐสภาพิจารณา.