สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมจอร์แดนประกาศ การเสริมกำลังทหารตลอดแนวชายแดนฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งติดกับอิสราเอล และเน้นย้ำ “การดำเนินการทุกวิถีทางตามกฎหมาย” เพื่อป้องกันการหลั่งไหลอพยพ ของชาวปาเลสไตน์จากเขตเวสต์แบงก์ หากมีการผลักดันจากอิสราเอล ซึ่งรัฐบาลอัมมานเตือนด้วยว่า ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงสันติภาพระดับทวิภาคี
#Jordan says the army had beefed up its presence along its borders with #Israel and warns that any Israeli attempt to forcibly push #Palestinians across the Jordan River would represent a breach of its peace accord with its neighbor.https://t.co/6qAG3ze0vm
— Al Arabiya English (@AlArabiya_Eng) November 21, 2023
ทั้งนี้ จอร์แดนเป็นประเทศที่สองในโลกอาหรับ ซึ่งสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล เมื่อปี 2537 ต่อจากอียิปต์ เมื่อปี 2522 และจอร์แดนยังมีสถานะเป็น “ผู้พิทักษ์” ศาสนสถานหลายแห่ง ในเขตตะวันออกของนครเยรูซาเลม พื้นที่พิพาทสำคัญระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ขณะที่นายไอย์มาน ซาฟาดี รมว.การต่างประเทศจอร์แดน กล่าวว่า รัฐบาลอัมมานยังคงมีคำถามเกี่ยวกับ “เป้าหมายที่แท้จริง” ของอิสราเอล ในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากแม้อิสราเอลประกาศว่า ต้องการ “กวาดล้าง” อีกฝ่าย แต่การที่กลุ่มฮามาสมีสมาชิกจำนวนมาก จึงยังคงเป็นคำถามว่า แล้วอิสราเอลจะบรรลุเป้าหมายที่ว่านั้นได้อย่างไร
นอกจากนี้ ซาฟาดียืนยันว่า จอร์แดนจะหยุดยั้งการหลั่งไหลข้ามพรมแดน ของคลื่นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ และความมั่นคงภายในของประเทศเช่นกัน.
เครดิตภาพ : AFP