สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่า ศูนย์บัญชาการภูมิภาคกลางของกองทัพสหรัฐ (เซนต์คอม) ออกแถลงการณ์ ว่าเครื่องบินเอซี-130 ของกองทัพสหรัฐ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ทำลายเป้าหมายสองแห่ง ในเขตชานกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก เพื่อตอบโต้ที่กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) และกลุ่มนักรบเครือข่าย ใช้เป็นฐานโจมตีกำลังพลและสรรพาวุธของสหรัฐ ทั้งในอิรักและซีเรีย


ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ ซึ่งกองทัพสหรัฐปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายในอิรัก หลังก่อนหน้านั้น เน้นการโจมตีเป้าหมายในซีเรียมาตลอด โดยข้อมูลจากกองทัพสหรัฐระบุด้วยว่า นับตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา มีการโจมตีกำลังพลและสรรพาวุธของสหรัฐในซีเรียอย่างน้อย 34 ครั้ง และอีกอย่างน้อย 32 ครั้งในอิรัก ส่งผลให้มีมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมกันมากกว่า 60 คน


ด้าน พล.จ.แพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธจากฝ่ายตรงข้าม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน ที่ฐานทัพอากาศอัล-อาซาด ในภาคตะวันตกของอิรัก จึงจำเป็นที่กองทัพสหรัฐต้องตอบโต้ “เพื่อแสดงการป้องกันตัวเองตามความชอบธรรม”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES