เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายสุรพงษ์ กองจันทึก กรรมการดำเนินการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า แม้กระทรวงศึกษาธิการจะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ในการแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนไร้สัญชาติ แต่ยังพบว่า มีเด็กที่ไม่มีสัญชาติไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือนักเรียนตัว G ในระบบของกระทรวงศึกษาธิการกว่า 130,000 คน ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขให้เด็กนักเรียนทุกคนมีเอกสารทางทะเบียนราษฎรทุกคน เพื่อจะได้ใช้สิทธิต่างๆ ในฐานะราษฎรไทยได้
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่โรงเรียนรุจิรพัฒน์ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส และอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน พบว่าจากยอดนักเรียนทั้งหมด 1,147 คน เป็นนักเรียนที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่ได้รับบัตรชนกลุ่มน้อยมีเลข 13 หลักขึ้นต้นด้วยเลข 0, 6 และ 7 ประมาณครึ่งหนึ่ง คือ 500-600 คน และเป็นนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรคือไม่มีบัตรใดๆ เลย ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการให้มีรหัส ตัว G อยู่จำนวน 187 คน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันทาง อ.สวนผึ้ง กำลังลงมาสำรวจและสอบปากคำเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้สัญชาติไทย ที่โรงเรียนรุจิรพัฒน์ ซึ่งเป็นโครงการที่ดี เนื่องจากมีเด็กจำนวนมากเกิดในประเทศไทย โดยมีพ่อแม่เป็นชนกลุ่มน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเผ่ากะเหรี่ยง ซึ่งมีกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีให้เด็กเหล่านี้ได้รับสัญชาติไทยตามหลักดินแดน แต่เด็กและผู้ปกครองไม่ทราบถึงสิทธิและขั้นตอนตามกฎหมาย นอกจากช่วยเด็กนักเรียนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนให้ได้สัญชาติไทยแล้ว ยังมีนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานเอกสารประจำตัวใดๆ เลยหรือนักเรียนตัว G ซึ่งอยากให้ทางอำเภอสวนผึ้งเร่งดำเนินการให้มีเอกสารแสดงตัวตามกฎหมายด้วย เฉพาะในโรงเรียนรุจิรพัฒน์มี 187 คน และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทองอีก 80 คน
นางสาวเจ นักเรียนชั้นมัธยม 3 โรงเรียนรุจิรพัฒน์ กล่าวว่า ตนทราบเพียงว่าจะมีการสำรวจ ให้นำเอกสารและพ่อแม่มาที่โรงเรียน เพิ่งทราบว่าตนมีคุณสมบัติที่ได้สัญชาติไทย และเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงโรงเรียน รู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นคนไร้สัญชาติมา 15 ปีตั้งแต่เกิด ถ้าได้สัญชาติไทยจะทำงานตามที่ตนเองฝัน คือเป็นหมอรักษาคน ตอนนี้ตนเรียนได้เกรด 3.69 จะพยายามเรียนให้ดียิ่งๆ ขึ้นเพื่อเป็นหมอให้ได้
ด้านนายชนันท์ อินทรักษ์ นอภ.สวนผึ้ง กล่าวว่า ทางอำเภอกำลังเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องสัญชาติ ที่ผ่านมามีผู้ยื่นเรื่องขอสัญชาติ ในพื้นที่อำเภอสวนผึ้งเป็นจำนวนมาก โดยได้จัดวันให้ภายใน 1 สัปดาห์มีการหมุนเวียนดำเนินการให้ครบทั้ง 15 หมู่บ้านในพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง และสามารถรับเรื่องในการสอบพยานเอกสารและบุคคล ต้องได้อย่างน้อย 5 รายในหนึ่งวัน ส่วนเรื่องของการออกเลข 13 หลักแทน รหัส G ทางอำเภอได้ทยอยดำเนินการ แต่ยังพบว่า บางราย รหัส G มีซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากเด็กบางรายย้ายโรงเรียน ขอย้ำว่า อำเภอสวนผึ้ง ไม่มีการเรียกรับเงินค่าดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น หากมีผู้ใดแอบอ้างว่าการพัฒนาสถานะ ทางอำเภอมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ให้แจ้งมาที่ตน เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดแก่ผู้ที่แอบอ้าง
