เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ อ้างว่ากลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันชาวไทย 23 คน ว่า เป็นข่าวที่เราไม่สามารถยืนยันได้ โดยเป็นข่าวที่มาจากสื่อมวลชน ไม่ใช่ข่าวที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการประสานงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลของประเทศที่เราได้ติดต่อสื่อสารว่า อยากให้เร่งรัดการผลักดันให้ปล่อยตัวประกันชาวไทยเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ตนได้รับทราบว่าในวันนี้ (24 พ.ย.) รัฐบาลกาตาร์จะมีการประชุมกัน ซึ่งน่าจะมีผลความคืบหน้าออกมาหลังจากการประชุมดังกล่าว และน่าจะเป็นข่าวดี

เมื่อถามถึงกรณีที่นายอะลี บากิรี คานี รมช.ต่างประเทศ ด้านการเมืองของประเทศอิหร่าน เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นายปานปรีย์ กล่าวว่า การมาเยือนของ รมช.ต่างประเทศอิหร่าน เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องจากการที่ตนได้เคยพบกับ รมว.ต่างประเทศอิหร่าน ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งครั้งนั้น ตนได้ขอให้เขาช่วยประสานงานให้มีการปล่อยตัวประกันชาวไทยเร็วที่สุด และหลังจากนั้น รมว.ต่างประเทศอิหร่าน ได้ไปหารือกับแกนนำของกลุ่มฮามาส ในส่วนของ รมช.ต่างประเทศอิหร่าน ที่เดินทางเยือนไทยนั้น ได้มีการขอเข้าพบตนด้วย และมีการพูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องความร่วมมือระหว่างไทยกับอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน แต่ไม่ได้พูดกันชัดเจนในเรื่องการปล่อยตัวคนไทย โดยเขายืนยันว่า อิหร่านจะดำเนินการทุกอย่างให้ผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมพร้อมรับตัวคนไทยที่จะถูกปล่อยตัวออกมา นายปานปรีย์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศเตรียมความพร้อมและวางแผนต่างๆ ครบถ้วนในการรอรับตัวประกันชาวไทย ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมีการปล่อยตัวผ่านชายแดนประเทศอิสราเอล หรือผ่านประเทศอื่น อาทิ ประเทศอียิปต์ ซึ่งเราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับที่จุดปล่อยตัว และถ้ามีตัวประกันที่ได้รับบาดเจ็บ ทางการอิสราเอลอาจยังไม่ปล่อยตัวจนกว่าบุคคลนั้นจะได้รับการรักษาพยาบาลให้สุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ จึงอาจมีการนำตัวประกันที่ได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาพยาบาลไว้ระยะหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์เกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดในตะวันออกกลาง การหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม และการปล่อยตัวประกัน โดยระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศมีความยินดีกับความตกลงล่าสุด ที่จะเริ่มปล่อยตัวประกันที่ถูกจับไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลและฉนวนกาซาเพิ่มเติมในวันนี้ ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าอันสำคัญหลังความพยายามในการเจรจาอย่างเต็มที่ของทุกฝ่ายในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีความยินดีที่มีการหยุดยิงชั่วคราว เพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม ตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สามารถเข้าถึงผู้ที่ต้องการได้ 

ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแนวโน้มเชิงบวกนี้ จะสามารถดำรงไว้จนนำไปสู่การปล่อยตัวประกันทั้งหมด ซึ่งมีคนไทยผู้บริสุทธิ์รวมอยู่ด้วยโดยเร็วที่สุด ตามที่ไทยได้เรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการต่างประเทศขอขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลกาตาร์ อิสราเอล สหรัฐอเมริกา อียิปต์ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ และทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในความพยายามและการเจรจาเพื่อนำมาสู่การปล่อยตัวประกันครั้งล่าสุดนี้ และขอแสดงความปรารถนาดีไปยังผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวและครอบครัวด้วย