สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 21 ก.ย. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในทำเนียบประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง "เริ่มแสดงความเคลือบแคลงใจ" เกี่ยวกับข้อตกลงเรือดำน้ำ ที่ลงนามร่วมกับออสเตรเลีย เมื่อปี 2559 ระหว่างการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำ กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ "จี 7" ที่สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผลการหารือครั้งนั้น "ไม่มีสัญญาณชัดเจน" ว่า ออสเตรเลียจะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวกับฝรั่งเศส ที่เป็นการผลิต "กองเรือดำน้ำ" ขับเคลื่อนด้วยพลังงานดีเซล มูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.3 ล้านล้านบาท ) จะเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีอุปสรรค หลังลงนามร่วมกันเมื่อปี 2559 และกำหนดส่งมอบเรือดำน้ำลำแรกจากทั้งหมด 12 ลำ คือภายในปี 2570
อย่างไรก็ตาม ผู้นำออสเตรเลียไม่ได้เป็นสมาชิกจี 7 แต่ได้รับเชิญจากสหราชอาณาจักร ให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ เคยแสดงความวิตกกังวลต่อฝรั่งเศสเป็นระยะ เกี่ยวกับกำหนดการและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในโครงการ แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หรือไม่
ขณะที่นับตั้งแต่มีการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ออสเตรเลียเข้าร่วมเป็นพันธมิตร "ออคัส" กับสหรัฐและสหราชอาณาจักร โดยรัฐบาลแคนเบอร์ราจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ฝรั่งเศสยังคงต้องการ "คำชี้แจงที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล" จากรัฐบาลวอชิงตัน แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองมากนัก แต่มาครงมีกำหนดสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ภายในสัปดาห์นี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES