เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาประกาศของกรมบัญชีกลางในการขึ้นทะเบียนผู้ก่อสร้างที่มีสิทธิเป็นผู้ยื่นข้อเสนอฯ ซึ่งเสี่ยงต่อการฮั้วประมูล และเป็นการเอื้อผู้รับเหมาชั้นพิเศษ รวมถึงผูกขาดโครงการก่อสร้างทางของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) นั้น ข้อมูลจากการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน

เนื่องจากการจัดลำดับชั้นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างทาง ได้แก่ ชั้น 2 ชั้น 1 และชั้นพิเศษนั้น ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 48 และมีการปรับปรุงรายละเอียดการจัดลำดับชั้นฯ เมื่อปี 60 หรือในช่วงยุครัฐบาลที่ผ่านมา โดยเป็นการปรับปรุงให้สอดคล้องกับศักยภาพของผู้รับเหมา เพื่อให้การดำเนินงานไม่เกิดความล่าช้า และไม่ทิ้งงาน
นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากกระทรวงการคลังปรับปรุงรายละเอียดการจัดลำดับชั้นฯ ดังกล่าว โดยได้กำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ เพื่อเปิดกว้างให้มีการแข่งขันของผู้รับเหมามากยิ่งขึ้นนั้น ทำให้ปัจจุบันผู้รับเหมาชั้นพิเศษมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่เมื่อมีการจัดลำดับชั้นฯ พบว่า ผู้รับเหมาชั้นพิเศษมีอัตราการสำเร็จของงาน และทันเวลาดีขึ้นมาก ซึ่งอยู่ในอัตราสำเร็จสูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบผู้รับเหมาในชั้น 1 และชั้น 2 อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ได้กำชับ และสั่งการว่า จะต้องไม่มีการฮั้วประมูลงานโดยเด็ดขาด รวมถึงการประมูลในแต่ละโครงการให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระเบียบ และกฎหมายอย่างเคร่งครัด อีกทั้งต้องมีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติต่อไป.