เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ จ.เพชรบุรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีกำหนดลงพื้นที่ช่วงบ่ายวันที่ 22 ก.ย. ท่ามกลางกระแสข่าวการประลองกำลังแบ่งขั้ว ระดม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปต้อนรับทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร

โดย ส.ส.พรรค พปชร. ที่จะไปให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็น ส.ส.กลุ่มจังหวัดที่อยู่แถบลุ่มเพชรบุรี จำนวน 12 คนประกอบด้วย ส.ส.เพชรบุรี ประกอบด้วย นายกฤษณ์ แก้วอยู่, นายสาธิต อุ๋ยตระกูล, นายสุชาติ อุสาหะ ขณะที่ ส.ส.กาญจนบุรี ประกอบด้วย พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์, นายสมเกียรติ วอนเพียร, นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ, นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส่วน ส.ส.ราชบุรี ประกอบด้วย น.ส.กุลวดี นพอมรบดี, นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ นอกจากนี้ยังมีนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และนายชัยยะ อังกินันทน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี มาร่วมให้การต้อนรับด้วย

ทั้งนี้ ส.ส.ทั้งหมดจะเข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว (SandBox) ที่โรงแรมรีเจ้นท์ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งมีนายกฯ เป็นประธานการประชุม ร่วมกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งจากการที่นายกฯ เปิดโอกาสให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุมขณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ เป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของนายกฯ ที่เคยพูดไว้ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าจะหาเวลาพบปะกับ ส.ส.ทุกพรรค โดยไม่เลือกพรรค เพื่อให้ ส.ส.สะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และลดช่องว่างระหว่างนายกฯ และ ส.ส.พรรคพปชร.

อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ มีการวางแผนที่จะลงพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเพื่อติดตามงานตามนโยบายรัฐบาลและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ และเปิดโอกาสให้ ส.ส.แต่ละพื้นที่เข้าใกล้ชิดด้วย

ส่วนพล.อ.ประวิตร ที่ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีกลุ่ม ส.ส.แถบลุ่มน้ำเจ้าพระยามาให้การต้อนรับ คาดว่ามีประมาณ 40 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากกว่า ส.ส.แถบลุ่มน้ำเพชรบุรี ทั้งนี้ ส.ส.จะมากี่คนขึ้นอยู่ภารกิจของแต่ละบุคคลด้วย.