สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ว่า สภากำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงินแห่งสหรัฐ (เอฟเอสโอซี) ระบุในรายงานประจำปีว่า มันมีความจำเป็นในการติดตามการพัฒนาอย่างรวดเร็วในเอไอ ซึ่งรวมถึงเอไอสำหรับการสร้างคอนเทนต์ เพื่อทำให้แน่ใจว่า โครงสร้างการกำกับดูแลยังตามทัน หรือนำหน้าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับระบบการเงิน
“ในขณะที่สถาบันการเงินยังคงประเมิน และนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้อย่างต่อเนื่อง การใช้ประโยชน์ของเอไอ อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ และประธานเอฟเอสโอซี กล่าว
เจเน็ต ระบุเสริมในการประชุมของสภาว่า การสนับสนุนนวัตกรรมในด้านนี้อย่างมีความรับผิดชอบ สามารถช่วยให้ระบบการเงินได้รับผลประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น แต่มันก็ควรมีการบังคับใช้หลักการ และกฎระเบียบที่มีอยู่ สำหรับการจัดการความเสี่ยงเช่นกัน
US identifies use of AI as risk in financial system https://t.co/NvaEZNrK5m
— ABS-CBN News (@ABSCBNNews) December 15, 2023
อนึ่ง รายงานประจำปีของเอฟเอสโอซี พบว่า ระบบการเงินของสหรัฐมีความยืดหยุ่น และระบบธนาคารของประเทศยังอยู่ในสภาพที่ดี แม้จะเกิดความวุ่นวายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของผู้ให้กู้ระดับภูมิภาคของสหรัฐบางราย
สำหรับตอนนี้ สภาสนับสนุนแผนการตรวจสอบว่า มาตรการด้านเงินทุน สะท้อนถึงความสามารถของสถาบัน ในการดูดซับความสูญเสียได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ พร้อมกับแนะนำให้หน่วยงานธนาคาร ติดตามระดับเงินฝากที่ไม่ได้รับประกันอย่างใกล้ชิด
ยิ่งไปกว่านั้น เอฟเอสโอซี ยังเรียกร้องให้สถาบันการเงิน และหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เพิ่มความสามารถในการติดตามนวัตกรรมเอไอ และระบุถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ตลอดจนผลักดันให้มีการรวบรวมข้อมูล และการผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้มีการกำกับดูแล “สเตเบิลคอยน์” ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกติดกับสินทรัพย์ที่มีความเสถียร เช่น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ.
เครดิตภาพ : AFP