เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 303 ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชัน ศาลนัดอ่านสอบคำให้การ คดีหมายเลข อท 206/2566 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ ฟ้อง พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ หรือเกียรติสมสุข จำเลยที่ 1 และ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก กำนันตำบลตาก้อง จ.นครปฐม กับพวกรวม 23 คน ในความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 66 เวลากลางคืนจำเลยนี้ได้ใช้จ้างวานให้นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา คนสนิท ใช้อาวุธปืน ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรศิว หรือสารวัตรแบงค์ สว.กก.2 บก.ทล. ในงานเลี้ยงภายในบ้านพักของจำเลยที่ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตเวลาต่อมา โดยศาลได้แจ้งสิทธิให้จำเลยทั้ง 23 ทราบแล้วตามบันทึกรายการแจ้งสิทธิก่อนเริ่มกระบวนพิจารณาจำเลยที่ 1-23 ได้แต่งตั้งทนายความแล้ว ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยทั้งยี่สิบสามฟังหลังมีทนายความแล้ว
จำเลยทั้ง 23 ให้การปฏิเสธ โดยไม่มีเหตุแห่งการปฏิเสธจึงให้จำเลยทั้ง 23 ดำเนินการจัดทำคำแถลงประกอบคำให้การจำเลยโดยเพิ่มเติมมาภายใน 20 วัน นับแต่วันนี้และดำเนินการจัดทำเอกสารตามที่ศาลได้สั่งไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา เนื่องจากคดีนี้จำเลยที่ 1-5 และจำเลยที่ 22 ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณา เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปโดยรวดเร็ว ไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของจำเลยมากเกินสมควร อาศัยอำนาจตามพระบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา9 ศาลเห็นควรย่นระยะเวลาการพิจารณา โดยไม่จำต้องนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดี แต่ให้นัดตรวจพยานหลักฐานของศาลไปทีเดียวในวันที่ 22 ม.ค.67 เวลา 09.30 น.
ทั้งนี้ศาลกำซับให้คู่ความดำเนินการตามคำสั่งศาลข้างต้นภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทุกขั้นตอนในการพิจารณาคดี และเพื่อประโยชน์แก่คู่ความในการยุติธรรม คุ้มครองสิทธิผู้ที่ถูกคุมขังตามแนวนโยบายของศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกา และอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จึงเห็นควรพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 6 เดือน นับแต่วันรับฟ้อง แต่ทั้งนี้ศาลต้องได้รับความร่วมมือจากคู่ความทุกฝ่าย มิฉะนั้นอาจเกิดความล่าช้าได้ จึงกำชับคู่ความดำเนินการให้เป็นไปตามกำหนดนัดอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน
อนึ่ง เนื่องจากคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนโดยทั่วไป เพื่อให้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดีดำเนินไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อยและเที่ยงธรรม อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559มาตรา 6 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ศาลจึงออกข้อกำหนดห้ามมิให้โจทก์ จำเลยทั้ง 23 และทนายจำเลยทุกคน ให้สัมภาษณ์หรือเผยแพร่ข้อมูลในคดีใด ๆ ในทางที่อาจเกิดการกระทบกระเทือนต่อกระบวนการพิจารณาของศาล ต่อสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง จนกว่าการพิจารณาพิพากษาคดีจะเสร็จสิ้น หากผู้ใดฝ่าฝืนอาจถือเป็นกระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้
ในวันนี้(18 ธ.ค.) ศาลได้กำหนดวันนัดไว้เบื้องต้นโดยให้นัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย ในช่วงวันที่5-7 ,12-14 มี.ค. และวันที่ 9-11 เม.ย. 2567 และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่๒๒ เมษายน ๒๕๖๗ โดยวันนัดดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนได้ ตามความเหมาะสมและอยู่ในดุลยพินิจของศาลโดยเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี 303 จำเลยทั้ง 23 คนรวมไปถึง กำนันนก ได้เข้าร่วมรับฟังการนัดสืบพยานนัดแรก โดยกำนันนก สวมชุดผู้ต้องขังแดน 1 นั่งอยู่ริมขวามือสุดริมหน้าต่าง ใส่กุญแจมือและตรวนข้อเท้า มีสีหน้านิ่งเฉย ผิวคล้ำขึ้น ซูบผอมลงอย่างมาก อยู่ในทรงผมสั้นเกรียน และพูดคุยเฉพาะกับทนายความส่วนตัวเป็นระยะ แต่ไม่ได้แสดงความเครียดแต่อย่างใด
สำหรับจำเลยที่ 1-5 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดช่วยเหลือกำนันนกและเป็นกลุ่มที่ทำลายพยานหลักฐานพร้อมพาหนีซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้า นั่งเรียงกันอยู่แถวด้านหน้ากำนันนก ต่างสวมใส่กุญแจมือและโซ่ตรวนที่ข้อเท้าเช่นกัน ส่วนจำเลยที่เหลือที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ นั่งเรียงกันตามลำดับเลขที่ของจำเลย