น.ส.ปิยนุช วุฒิสอน  ผู้อำนวยการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยว่า  สสช.ได้ทำการสำรวจแรงงานนอกระบบ หรือ ผู้มีงานทำที่ไม่ได้รับการคุ้มครองหรือไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงาน ในปี 66 เพื่อให้ทราบข้อมูล เกี่ยวกับลักษณะการทำงาน และปัญหาที่เกิดจากการทำงานของแรงงานนอกระบบ  โดยภาพรวมสถานการณ์แรงงานนอกระบบในปี 66 นี้ พบว่า ผู้มีงานทำมีจำนวนทั้งสิ้น 40.1 ล้านคน เป็นแรงงานนอกระบบจำนวน 21.0 ล้านคน (52.3%) ซึ่งมากกว่าแรงงานในระบบที่มีจำนวน 19.1 ล้านคน (47.7%) โดยครึ่งหนึ่งของแรงงานนอกระบบอยู่ในช่วงอายุ 40-59 ปี และที่น่าสนใจคือ กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ยังทำงานอยู่ประมาณ 5.1 ล้านคนนั้น เป็นแรงงานนอกระบบมากถึง 4.4 ล้านคน

ทั้งนี้ผลสำรวจยังมีข้อมูลระบุว่า แรงงานนอกระบบสำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษามากที่สุด แต่เมื่อดูแนวโน้มการศึกษาที่จบของแรงงานนอกระบบ จะเห็นว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นในทุกระดับการศึกษา และแรงงานนอกระบบ 55.4%  ทำงานอยู่ในภาคเกษตรกรรม โดยมีชั่วโมงทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ของแรงงานนอกระบบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และเมื่อเปรียบเทียบค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือน พบว่าลูกจ้างที่เป็นแรงงานนอกระบบยังคงมีค่าจ้างต่ำกว่าลูกจ้างในระบบเกือบ 2 เท่า อีกทั้งมีแรงงานนอกระบบ 28.2% ที่ประสบปัญหา โดยเป็นปัญหาจากการทำงานมากที่สุด เช่น ค่าตอบแทน งานขาดความต่อเนื่อง งานหนักเกินไป เป็นต้น

“ผลสำรวจโดยสรุปแล้ว ในปี 66 ยังคงมีจำนวนแรงงานนอกระบบมากกว่าแรงงานในระบบ โดยประมาณครึ่งหนึ่งของแรงงานนอกระบบทำงานในภาคเกษตรกรรมและมีชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ต่ำกว่าแรงงานในระบบ ในขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยของลูกจ้างที่เป็นแรงงานนอกระบบยังคงได้รับค่าจ้างค่อนข้างต่ำ ดังนั้น จึงต้องมีการดูแลและส่งเสริมให้แรงงานนอกระบบได้รับความคุ้มครองหรือเข้าถึงหลักประกันทางสังคมให้มากขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของแรงงานนอกระบบต่อไป” น.ส.ปิยนุช  กล่าว