เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แยกลงพื้นที่ต่างจังหวัดแต่ปรากฏว่า ส.ส.พรรค พปชร. ไปร่วมคณะรับนายกฯ แค่ 9 คน แห่ไปต้อนรับหัวหน้าพรรค 55 คน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มักทำอะไรผิดที่ผิดเวลา ตอนโควิด วิกฤติหนักสุด ประชาชนเรียกร้องให้ใส่ชุด PPE ลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชน แต่กลับเวิร์กฟรอมโฮมในค่ายทหาร มีเพียงนักรบเสื้อกาวน์ที่ยืนหยัดสู้โควิดเพื่อประชาชน รอจนโควิดซา พล.อ.ประยุทธ์ถึงค่อยออกมา ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการลงพื้นที่ประลองกำลังเพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองภายในพรรครัฐบาลอยู่มาเกือบ 8 ปี เพิ่งคิดพลิกโฉมประเทศ

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในขณะที่ประชาชนเกือบร้อยละ 70 สะท้อนผ่านนิด้าโพล ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรยุติบทบาททางการเมืองเพราะบริหารงานล้มเหลว ขาดภาวะผู้นำ ไม่มีศักยภาพ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในประเทศได้ ส่งผลกระทบให้ประชาชนเดือดร้อน การลงพื้นที่วัดกำลังกับ พล.อ.ประวิตร ผลออกมาชัด 9 ต่อ 55 แสดงว่านอกจากประชาชนไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรค พปชร.ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าไปหลงเสียงเชียร์จากการจัดฉาก แต่ต้องรับฟังความต้องการที่แท้จริงของประชาชนไม่ว่าการเลือกตั้งจะเร็วหรือช้า พรรค พท. ไม่กังวล ได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านนโยบายแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด แก้ไขผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่วิกฤติอย่างหนัก และเตรียมความพร้อมด้านตัวผู้สมัครไว้แล้วแต่ที่กังวลคือเกรงว่าพรรค พปชร. จะไม่ส่ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะถามกี่ครั้งแกนนำพรรค พปชร. อ้อมแอ้มไม่ยืนยันว่าจะส่งหรือไม่

“ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับความจริง ก่อนพลิกโฉมประเทศ ควรพลิกการตัดสินใจ ยุติบทบาททางการเมือง เพราะเดินต่อไปลำบากแล้ว” นายอนุสรณ์ กล่าว.