สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ว่านายเดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก ( ดับเบิลยูเอฟพี ) กล่าวว่า ตอนนี้ดับเบิลยูเอฟพีกำลังขาดสภาพคล่องอีกครั้ง แม้ได้รับบริจาคเงินจำนวนหนึ่งจากสหรัฐ เยอรมนี ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) และอีกหลายประเทศ แต่สามารถใช้ได้เพียงระยะหนึ่ง หากไม่มีความช่วยเหลือด้านเงินทุนเข้ามาภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ อาจทำให้ต้องใช้มาตรการลดการปันส่วนอาหาร สำหรับชาวเยเมน 3.2 ล้านคนในเดือนหน้า และเพิ่มเป็น 5 ล้านคน ภายในเดือน ธ.ค.ปีนี้
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ประกาศการระดมทุน 3,850 ล้านดอลาร์สหรัฐ ( ราว 127,781.50 ล้านบาท ) เพื่อการดำเนินงานของดับเบิลยูเอฟพีตลอดปีนี้ แต่จนถึงปัจจุบัน มีการบริจาคเข้ามาเพียง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 56,423 ล้านบาท ) ซึ่งกูเตร์เรสตำหนิว่า "น่าผิดหวังอย่างมาก" แม้การหารือนอกรอบการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สามารถระดมทุนได้อีก 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 19,914 ล้านบาท ) แต่ยูเอ็นมองว่า ยังคงไม่เพียงพอ
ขณะที่เยเมนเป็นประเทศซึ่งดับเบิลยูเอฟพีมีความกังวลมากที่สุด เนื่องจากอยู่ในภาวะสงครามตั้งแต่ปี 2557 แต่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกลับไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร ในทุก 10 นาที จะมีเด็กชาวเยเมน 1 คน เสียชีวิต "จากสาเหตุที่ป้องกันได้" อาทิ การขาดอาหาร หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป โดยนอกเหนือจากเรื่องบประมาณ ยังมีเรื่องของการไม่ได้รับความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอจากกองกำลังหลายฝ่ายในเยเมน ประชาชน 16 ล้านคน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ "กำลังอยู่บนปากเหวของการอดอยาก".

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES