เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่จะมีการพิจารณาวาระแรก ในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.นี้ ว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ในครั้งนี้มีเวลาน้อยมาก เนื่องจากงบประมาณฯ ปี 2567 ต้องใช้งบประมาณของปี 2566 ไปพลางก่อน ทำให้สภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีเวลาในการพิจารณางบประมาณฯ ภายใน 105 วัน ใน 3 วาระ จึงต้องเร่งศึกษาในประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2567 เพื่อให้เป็นงบประมาณที่จะได้ใช้อย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม พบว่าการจัดสรรงบประมาณในส่วนของงบกลาง สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563-2567 มีการจัดสรรงบกลางแล้วทั้งสิ้นกว่า 2.9 ล้านล้านบาท เฉลี่ย 580,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 มีการจัดสรรงบกลาง กว่า 600,000 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2566 จำนวน 16,295 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณรายจ่ายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ ร้อยละ 82.9 และเป็นงบประมาณเพื่อสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 98,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 6,100 ล้านบาท จากปี 2566
นายสรรเพชญ กล่าวอีกว่า ตนตั้งข้อสังเกตงบประมาณในส่วนนี้ว่าเป็นการตีเช็คเปล่าให้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะงบกลางเป็นงบประมาณที่ถูกตรวจสอบยากที่สุด นอกจากนี้ เมื่อย้อนไปฟังคำอภิปรายของ สส.พรรคเพื่อไทยและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งหลายคนเคยทำหน้าที่ฝ่ายค้านวิจารณ์รัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าใช้งบกลางเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี แต่มาวันนี้พวกเขากลับทำในสิ่งที่ตัวเองพูดไว้ในอดีต แบบนี้เข้าข่าย “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” หรือไม่ ซึ่งตนในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ จะติดตามการใช้จ่ายงบประมาณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน