เมื่อวันที่ 3 ม.ค. พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ราชศักดิ์ เชียรรัมย์ สว.สส. พร้อมกำลัง เข้าจับกุม นายปั่น อายุ 18 ปี และนายมิง อายุ 18 ปี ทั้งคู่เป็นชาว อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ หลังจากนายปั่น ใช้อาวุธปืนยิงนายสมบุญ อายุ 56 ปี ขณะอยู่ในงานฉลองอัฐิ ที่บ้านตะคล้อ หมู่ 4 โดยกระสุนปืนเข้าที่ไหปลาร้าซ้ายบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายปั่น อ้างว่า หลังจากก่อเหตุได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มีนายมิง เป็นผู้ขับขี่พาหลบหนี แล้วนำอาวุธปืนมาโยนทิ้งน้ำที่สระสาธารณะข้าง อบต.พรสำราญ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ นำชุดประดามาค้นหานานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ไม่พบอาวุธปืนของกลางตามที่ นายปั่น กล่าวอ้าง จึงนำตัวไปสอบสวนใหม่อีกครั้ง ต่อมานายปั่น รับสารภาพว่า นำอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้ที่กองฟางหลังบ้านพักของตนเอง จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก , ลูกกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด และเศษระเบิดปิงปองที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง จึงยึดมาตรวจสอบ

ทั้งนี้ พ่อนายปั่น เล่าว่า ตนเองเป็นพ่อค้าขายผัดไทยอยู่ที่ จ.สระแก้ว ส่วนนายปั่นทำงานอยู่กับพี่ชาย ที่กรุงเทพ ช่วงเทศกาลปีใหม่ได้นัดกันมาบ้านเกิดที่บุรีรัมย์ ส่วนตัวไม่ทราบว่าลูกชายมีอาวุธปืน เท่าที่สอบถามลูกชายทราบว่าวัยรุ่นเจ้าถิ่น เดินมากระซิบข้างหูลูกซายว่า “มึงอยากมีเรื่องกับกูมั้ย” จนมาทราบเรื่องว่าลูกชายไปก่อเหตุ

ด้านนายบัวไล รอไธสง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านตะคล้อ ต.พรสำราญ เล่าว่า ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่รถแห่ใกล้จะเลิกการแสดง ได้มีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่น คือ กลุ่มนายปั่น ทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นในหมู่บ้าน ซึ่งไม่ค่อยจะถูกกันมานาน ต่อมาได้ยินเสียงปืนวัยรุ่นต่างถิ่น ประมาณ 3-4 นัด และมีการปาระเบิดปิงปองจำนวนหลายลูก ส่วนนายสมบุญ คนเจ็บได้วิ่งตามลูกชายออกไป เลยทำให้โดนลูกหลงจากกระสุนปืน ตอนนี้อาการยังสาหัสนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์

เบื้องต้น พ.ต.ท.ชนะมาร เต็มปักษี สว.(สอบสวน) สภ.คูเมือง แจ้งข้อหานายปั่น และนายมิง “ร่วมกันพยายามฆ่า และพรบ.อาวุธปืน” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.