เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าชุดส่วนปฏิบัติศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ป. สนธิกำลังร่วม สภ.แสนสุข เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จับกุมนายวรพตน์ คุ้มภัย อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ จ.358/2564 ลงวันที่ 13 ก.ย. 2564 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกรรโชกทรัพย์”

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง ส่งเรื่องร้องเรียนผ่าน “เพจศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ” ถูกผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรมชื่อ “โกโก้” ara1_234567890 ส่งคลิปวิดีโอที่ถูกแอบถ่ายไว้ในลักษณะลามกอนาจาร มาข่มขู่เรียกเงิน 200,000 บาท แลกกับการไม่ปล่อยคลิป และขอร่วมหลับนอนด้วย เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมทำตาม คนร้ายจึงข่มขู่ต่อเนื่อง รวมถึงกดดันไปยังคนในครอบครัวและคนรอบข้าง จนทำให้เกิดความอับอาย ส่งผลต่อหน้าที่การงานและสภาวะจิตใจเป็นอย่างมาก ประกอบกับพฤติการณ์ของคนร้ายหากปล่อยไว้อาจเป็นภัยต่อสังคม ทาง พล.ต.ต.จิรภพ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง

กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายวรพตน์ ซึ่งเคยรู้จักและเคยมีความสัมพันธ์กับผู้เสียหายมาก่อนผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งช่วงแรกจะทำทีพูดคุยคอยให้คำปรึกษาแก่ผู้เสียหายมาโดยตลอด เมื่อผู้เสียหายเกิดความไว้ใจ จึงออกอุบายลวงให้มาพบและพาเข้าโรงแรมเพื่อกระทำอนาจารพร้อมแอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ซึ่งเป็นคลิปเดียวกันกับที่ใช้ในการข่มขู่ หลังจากนั้น นายวรพตน์ ก็ยังคงพยายามรบเร้าให้ผู้เสียหายมาพบอีก โดยจะนำคลิปวิดีโอมาใช้ในการข่มขู่ให้ยอมทำตาม แต่เมื่อผู้เสียหายไปถึงสถานที่นัดหมายกลับพบว่านายวรพตน์ ได้พาเพื่อนมาอีก 2 คนซึ่งนั่งดื่มเบียร์ รออยู่ภายในห้องพัก ก่อนจะใช้กำลังบังคับข่มขืนผู้เสียหายจำนวนหลายครั้ง รวมถึงบังคับให้ผู้เสียหายรออยู่ในห้อง จนผู้เสียหายทนต่อพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว ออกอุบายหลบหนีออกมาจากห้องพักดังกล่าวได้ และพยายามตัดขาดการติดต่อ แต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งมาถูกข่มขู่เรียกเงิน 2 แสนบาท ครั้งล่าสุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงประสานข้อมูลร่วมกับทาง สภ.แสนสุข เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นและหมายจับจนนำไปการเปิดปฏิบัติการเข้าจับกุมตัวพร้อมกับตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ได้ดังกล่าว

นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือของกลางพบข้อมูลหลักฐานสำคัญในการยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้คือ เจ้าของบัญชีผู้ใช้อินสตาแกรมที่ส่งข้อความมาข่มขู่ผู้เสียหายจริง นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบคลิปวิดีโอที่ผู้ต้องหาแอบถ่ายไว้ขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายรายอื่นอีกด้วย รวมถึงยังพบว่ามีการเปิดบัญชีแอพพลิเคชั่นไลน์ เฟซบุ๊ก และแอพพลิเคชั่นหาคู่ เพื่อใช้สำหรับติดต่อพูดคุยกับเหยื่อคนอื่นๆ อีกหลายราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดต่อไป

จากการสอบสวน นายวรพตน์ ให้การรับสารภาพว่า ข่มขู่กรรโชกเงินจากผู้เสียหายจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับข่มขืนแต่อย่างใด เป็นการสมยอมกันของทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สภ.แสนสุข ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.