เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ กระทรวงสาธารณสุข  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาระบบบริการโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข กับ มูลนิธิรพ.สมเด็จพระยุพราช กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิรพ.สมเด็จพระยุพราช นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย  นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาราชการแทนเลขาธิการกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมลงนาม

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการที่สำคัญของประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติสาธารณสุข ปี 2566 พบผู้ป่วยมากถึง 349,126 ราย เสียชีวิต 36,214 ราย ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งโรคนี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนภายใน 4.5 ชั่วโมง เพื่อลดการเสียชีวิตและทุพพลภาพ ผ่านการเข้าถึงบริการทางด่วนโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Fast Track) และการใส่สายสวนหลอดเลือดสมอง (Mechanical Thrombectomy) การดูแลรักษาตามมาตรฐานที่หน่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Unit) กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับ 5 หน่วยงาน พัฒนาระบบบริการโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โดยจัดบริการรถวินิจฉัยและรักษาภาวะวิกฤติทางหลอดเลือดสมองเคลื่อนที่ สามารถตรวจวินิจฉัยด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan) และรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำได้ภายในรถ รวมถึงมีการจัดสรรเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ให้ครอบคลุมทุกรพ.แม่ข่าย  นำร่องที่รพ.สมเด็จพระยุพราช เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิรพ.สมเด็จพระยุพราช เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พร้อมทั้งพัฒนารพ.สมเด็จพระยุพราชให้เป็นรพ.อัจฉริยะต้นแบบ  

“หากสังคมมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่ไม่สามารถฟื้นฟูสภาพให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้ ผู้ป่วยเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้พิการ อัมพฤกษ์ อัมพาต ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ครอบครัวและสังคมต้องให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงสถานะทางการเงินของครอบครัว รวมถึงงบประมาณจำนวนมาก ที่ต้องนำมาใช้ในการดูแล รักษา ทั้งค่ายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ แต่หากผู้ป่วยได้รับการรักษาทันท่วงที โอกาสเกิดความพิการก็จะลดลง รวมทั้งต้องมีการป้องกัน โดยการลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค ทั้งอาหาร การออกกำลังกาย รวมไปถึงการปรับตัวในการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม” นพ.ชลน่าน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพัฒนาระบบบริการโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัย ลดการเสียชีวิต และลดภาวะทุพพลภาพ  และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรร่วมกันของเขตสุขภาพ และนับเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ในวันนี้หน่วยงานทั้ง 6 หน่วยงาน จะได้บูรณาการความร่วมมือร่วมกันอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ด้วยการสร้างและพัฒนาระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.