จากปี 2567 นี้ จะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนมากถึง 1 ล้านล้านบาท โดยที่ไตรมาสแรกนี้ มีหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นหุ้นกู้ระดับที่ลงทุนได้ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท และกลุ่ม “ไฮยีลด์บอนด์” ถึง 3.8 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก

สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วงปี 2567 นี้ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย 

  • บจก.แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ครบกำหนดรวม13 ชุด วงเงินรวม 21,370 ล้านบาท 
  • บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) 4 ชุด วงเงินรวม 7,057 ล้านบาท
  • บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) มี 6 ชุดวงเงินรวม 6,668 ล้านบาท
  • บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้  (GRANG) มี 4 ชุด วงเงินรวม 4,798.50 ล้านบาท
  • บมจ.ไซมิส แอสเสท (SASST ) มี 5 ชุด วงเงิน 2,542 ล้านบาท
  • บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ( MJD ) มี 4 ชุด วงเงิน 1,867 ล้านบาท
  • บมจ. มั่นคงเคหะการ (MK)  มี 2 ชุด วงเงิน 1,136 ล้านบาท
  • บมจ.ไรมอน แลนด์ ( RML) มี 5 ชุด มูลหนี้ 1,012 ล้านบาท
  • บมจ. ชีวาทัย  (CWTTH) มี 3 ชุด วงเงิน 1,000 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นกู้กลุ่มอื่นๆ อาทิ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) วงเงิน 1,500 ล้านบาท, บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) วงเงิน 1,083 ล้านบาท, บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา (TNITY) วงเงิน 1,607 ล้านบาท ซึ่งจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า บริษัทใดประสบปัญหาการเงินแล้วส่อเค้าผิดนัดชำระ