เมื่อวันที่ 12 ม.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. นำหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 9/2567 ลง 10 ธ.ค. 67 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 4 ซึ่งอยู่ภายในบ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 2 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมจับกุมตัวนายตะวัน บุญยะเกตุ หรือ “เอ็ม สายหลอน” อายุ 30 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281/1 เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการจ่ายแจก ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือส่งออก หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2”
สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้ตรวจสอบพบการโฆษณาชักชวนให้เข้ากลุ่มลับที่มีการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็ก (CSAM) ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยมีการเก็บค่าสมัครสมาชิกแรกก่อนเข้าดูในราคา 200 บาท และต้องจ่ายรายเดือนอีกเดือนละ 50 บาท
จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้จัดการหรือแอดมินกลุ่มลับ ใช้บัญชีไลน์ที่ชื่อว่า “เอ็ม สายหลอน” ซึ่งได้มีการเปิดกลุ่มลับจำนวนกว่า 100 กลุ่ม มีสมาชิกกว่า 1 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก (CSAM) เกือบทั้งหมด ซึ่งมีสื่อลามกอนาจารเด็ก (CSAM) ทั้งเด็กไทย และเด็กต่างชาติ โดยแอดมินกลุ่มลับคือนายตะวัน หรือ เอ็ม สายหลอน จากการตรวจประวัติคดีอาญา พบเคยต้องหาคดีอาญาฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี เมื่อปี 2560 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายค้นบ้านพักและจับกุมตัวไว้ได้เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา
จากการตรวจค้นข้อมูลในโทรศัพท์ของกลาง จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งมีการลงแอปพลิเคชันไลน์และกลุ่มไลน์ที่มีการลงสื่อลามกอนาจารเด็ก (CSAM) รวมแล้ว 119 กลุ่ม มีสมาชิกในกลุ่มลับรวมกว่า 17,191 คน มีไฟล์สื่อลามกรวมกันมากกว่า 17,000 ไฟล์
สอบปากคำนายตะวัน ให้การรับสารภาพว่าทำมานานหลายปี เคยทำร่วมกับคนอื่นแล้วแยกย้ายกันไปเปิดกลุ่มลับของตัวเอง และมีการทักหากเด็กหลายคนเพื่อล่อลวงให้เด็กผลิตสื่อลามกอนาจารเด็ก (CSAM) ให้ แต่ยังไม่มีผู้เสียหายหลงกลส่งสื่อลามกกลับมา ซึ่งแอดมินกลุ่มลับน่าจะมีอาการที่เรียกว่า “โรคใคร่เด็ก” (Pedophilia)
พ.ต.อ.รุ่งเลิศ กล่าวว่า สำหรับโรคใคร่เด็ก (Pedophilia) เป็นอาการทางจิตที่ผิดปกติที่แสดงออกว่าชอบหรือรักเด็ก แต่เป็นความรักที่เกินขอบเขต รักแบบคลั่งไคล้ ต้องการให้เด็กเป็นของตัวเอง จนนำไปสู่การนำเด็กมาเป็นเหยื่อบำบัดความใคร่ทางเพศ ลักษณะผู้ป่วยโรคใคร่เด็ก ซึ่งจะไม่แสดงพฤติกรรมที่ชัดเจนและสังเกตอาการจากภายนอกได้ยาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุ 35-40 ขึ้นไป ไม่ค่อยมีความสุขกับคู่ครองวัยเดียวกัน ส่วนใหญ่เกิดจากคนในครอบครัว/คนใกล้ชิด เช่น เพื่อนบ้าน/ญาติ พยายามเข้าใกล้เด็กด้วยวิธีการตีสนิท หลอกล่อ ให้รางวัล ให้ขนม ให้เงิน เพื่อให้เด็กเชื่อใจ/ตีสนิท เกิดความรู้สึก/มีจินตนาการทางเพศกับเด็กเท่านั้น ชอบมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กและทำซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งเด็กคนเดิมหรือเด็กคนใหม่
ใครที่มีความเสี่ยงจะตกเป็นเหยื่อ เด็กก่อนวัยเริ่มเจริญพันธุ์ไปถึง 13 ปี เด็กทารก เด็กอนุบาล เด็กประถม โดยรูปแบบการกระทำทางเพศกับเด็ก จะไม่มีการสัมผัสร่างกาย หากมีการสัมผัสร่างกายแต่ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศหรือการล่วงละเมิดทางเพศ ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดโทษและลงโทษโดยคำนึงถึงความผิดปกติทางจิต “โรคใคร่เด็ก” และอาจไม่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ผู้กระทำความผิดจึงมีความผิดและรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.