ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (25 ก.ย.64) พบว่าทางหลวงถูกน้ำท่วมและดินสไลด์จำนวน 18 จังหวัด 32 สายทาง 69 แห่ง การจราจรสามารถผ่านได้ 59 แห่ง และผ่านไม่ได้ 9 แห่งดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ (2 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.2009 และ ทล.12 จ.ชัยภูมิ (2 สาย 3 แห่ง) ได้แก่ ทล.201  และ ทล.205 

จ.อำนาจเจริญ (1 สาย 1 แห่ง) ได้แก่ ทล.202 จ.สุรินทร์ (2 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.214 และ ทล.2334  จ.ขอนแก่น (2 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.12 และ ทล.229 จ.นครราชสีมา (9 สาย 17 แห่ง) ได้แก่ ทล.2217, ทล.2256, ทล.201, ทล.205, ทล.2, ทล.2421, ทล.2148, ทล.2150 และ ทล.2068 จ.ศรีสะเกษ (1 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.2111 จ.อุบลราชธานี (1 สาย 3 แห่ง) ได้แก่ ทล.24  ร้อยเอ็ด (1 สาย 3 แห่ง) ได้แก่ ทล.24 

ภาคกลาง ได้แก่ สุโขทัย (7 สาย 14 แห่ง) ได้แก่ ทล.12, ทล.101, ทล.125, ทล.1056, ทล.1113, ทล.1272, ทล.1347, ทล.1308, ทล.1195 จ.ลพบุรี (1 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.3473 จ.กำแพงเพชร (1 สาย 4 แห่ง)  ได้แก่ ทล.1 จ.พระนครศรีอยุธยา (1 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.32 จ.เพชรบูรณ์ (2 สาย 5 แห่ง) ได้แก่ ทล.225 และ ทล.21 จ.พิษณุโลก (1 สาย 1 แห่ง) ได้แก่ ทล.126 จ.สุพรรณบุรี (2 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.33 และ ทล.340 และ จ.ตาก (2 สาย 2 แห่ง) ได้แก่ ทล.101 และ ทล.1 

สำหรับเส้นทางที่การจราจรไม่สามารถผ่านได้ 7 สายทาง 9 แห่ง ได้แก่ จ.สุโขทัย (4 สายทาง 4 แห่ง) ทล.12 ตอน เมืองเก่า-สุโขทัย ช่วงกม.ที่ 168+178-171+270 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 40 ซม., ทล. 125 แจกัน-บ้านสวน ช่วง กม.ที่ 14+875-19+400 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 60 ซม., ทล. 1113 เมืองเก่า-ดอนโก ช่วง กม.ที่ 2+600-2+700 ด้านซ้ายและขวาทาง ระดับน้ำสูง 35 ซม. และ ทล. 1347 วัดโคก-สระบัว ช่วง กม.ที่ 1+800-3+200 (เป็นช่วงๆ) ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 40 ซม. หากเดินทางจากตากไปพิษณุโลกขอให้ใช้ทางเลี่ยง ทล. 12 แทน 

จ.กำแพงเพชร (1 สายทาง 3 แห่ง) ทล.1 ตอน โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 432+030 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 120 ซม., ทล.1 ตอน โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 419+036 (จุดกลับรถคลองพะยอม) ระดับน้ำสูง 100 ซม.และ ทล. 1 ตอน โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 431+701 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 120 ซม. จ.สุพรรณบุรี (2 สายทาง 2 แห่ง) ทล.33 ตอน สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 40 ซม. และ ทล.340 ตอน สาลี-สุพรรณ ช่วง กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 50 ซม. 

ทั้งนี้ได้เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วนให้ช่วยเคลื่อนย้ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมติดตั้งป้ายเตือนจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนบนทางหลวงในการสัญจร และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง

พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1