เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ที่ไม่สามารถใช้กระบวนการนอกสภาได้ และก่อนหน้านี้ก็มีการยื่นกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ซึ่งก็อาจจะเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ด้วย โดยหลังจากนี้จะมีการทำความเข้าใจอย่างไรกับสมาชิก ว่าต้องรอดูคำวินิจฉัยทั้งหมดของศาลฯ เพื่อนำมาประกอบและให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงฝ่ายกฎหมาย ของประธานสภาได้ดูรายละเอียดและเสนอกลับมาอีกครั้ง

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. กับ สส.พรรคก้าวไกล ที่ได้เคยเสนอร่างกฎหมาย เมื่อปี 64 จะส่งผลอย่างไรหรือไม่ ประธานสภา กล่าวว่า เป็นเรื่องนอกสภา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของผู้ที่ร้องและผู้ถูกร้อง ต่อองค์กรอิสระทั้งหลาย ซึ่งเป็นเรื่องนอกสภาตนไม่อาจอาจจะก้าวล่วงได้

ส่วนจากนี้จะมีการคุมการประชุมสภาอย่างเข้มงวด ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีการสั่งห้ามอย่างไร ประธานสภา กล่าวว่า เราคงดูไปตามกฎหมาย และทางสภาก็มีฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายกฎหมายคอยกลั่นกรองของสภาอยู่แล้ว เราก็ดูไปตามขั้นตอน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป ไม่มีอะไรเข้มงวดหรือไม่เข้มงวด เป็นไปตามกฎหมายข้อบังคับของสภา

เมื่อถามว่าหลังจากนี้การประชุมสภาก็ไม่ควรจะไปพูดพาดพิงเกี่ยวกับสถาบันใช่หรือไม่ ประธานสภา กล่าวว่า โดยปกติแล้ว มีข้อบังคับ ที่กำหนดไว้ไม่ให้พูดถึงเรื่องสถาบัน และห้ามพูดถึงบุคคลภายนอก หากพูดออกไป ผู้พูดก็ต้องรับผิดชอบ ทางสภาจะถือข้อบังคับและกฎหมาย

เมื่อถามย้ำว่าต่อจากนี้เรื่องมาตรา 112 จะไม่สามารถนำมาพูดถึงในสภาได้อีกแล้วใช่หรือไม่ ประธานสภา ตอบว่า ตรงนี้ตนไม่สามารถจะวิจารณ์ได้ ต้องขอดูรายละเอียดของคำวินิจฉัยทั้งหมด และฝ่ายกฎหมายจะเสนอให้ประธานและรองประธานสภารับทราบต่อไป.