เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ขอเข้าพบนพ.โสภณ เมฆธน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอโทษกรณีตัดทอนคำพูดการให้สัมภาษณ์ช่วงที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถึงผลสอบ ผอ. ลวนลามลูกจ้างสาว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ผ่านเฟซบุ๊กรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ว่า “สอบแล้วเขายอมรับเป็นเชิงหยอกล้อไม่ได้มีเจตนาชู้สาว” พร้อมระบุข้อความว่า “ตอบแบบนี้ก็ได้เหรอ” ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าไม่เป็นกลาง เข้าข้างฝ่ายถูกกล่าวหา ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
โดยนายรณณรงค์ กล่าวขอโทษพร้อมมอบกระเช้าว่า ตนต้องขอโทษ นพ.โสภณ จากการแสดงความคิดเห็นดังกล่าว และทำให้ นพ.โสภณ ได้รับผลกระทบ ก็ขอน้อมรับผิดทุกอย่าง เพราะไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น วันนี้จึงตั้งใจมาขอโทษ และหวังว่าจะให้โอกาสตน ยืนยันว่าไม่ได้มีเหตุส่วนตัวอะไรกัน แต่ที่ทำไปเพราะเป็นการตามประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม และอยากให้ประเทศชาติดีขึ้น ไม่ได้มีผลประโยชน์อื่นแอบแฝง โดยหลังจากนี้จะระมัดระวังเรื่องการใช้ถ้อยคำ เพื่อไม่ให้กระทบผู้อื่นอีก
ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบพบบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์” มีการโพสต์รูปภาพและข้อความลักษณะดังกล่าว เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2560 หลังพิจารณาจากพยานหลักฐานแล้ว ข้อความดังกล่าวที่เผยแพร่ออกไป เป็นคำแก้ตัวของผู้ถูกกล่าวหา แต่มีการไปตัดคำแก้ตัวแล้วใส่ชื่อของตนเข้าไป เมื่อเกิดการแชร์ภาพและข้อความเช่นนี้ออกไป ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และคุกคามไปถึงครอบครัว ทำให้ได้รับความเสียหายทั้งส่วนของตนเองและธรรมาภิบาลของกระทรวง ที่ต้องดูแลบุคลากร 3-4 แสนคน ซึ่งจริงๆ แล้ว ตอนนั้นตนให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงผลการสอบสวนว่า มีพฤติกรรมตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวหาจริง และผู้ถูกกล่าวหายอมรับว่าได้ดำเนินการในลักษณะหยอกล้อที่ไม่ค่อยเหมาะสม แต่กระทำโดยไม่มีเจตนาจะลวนลามเชิงชู้สาวหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งกรณีนี้ คณะกรรมการมีความเห็นว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรกระทำต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และเป็นการกระทำในสถานที่ราชการ ทั้งยังอยู่ในเครื่องแบบข้าราชการ ถือว่าเป็นการคุกคามทางเพศตามกฎ ก.พ. คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่ามีมูล และเห็นสมควรให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า หลังจากพิจารณาแล้ว จึงได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการตัดทอนข้อความ และเผยแพร่ข้อความดังกล่าวต่อบุคคลอื่นโดยกระทำผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2560 และนำมาสู่การที่นายรณณรงค์ เข้ามาขอโทษตนอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งวันนี้ตนก็ให้โอกาสนายรณณรงค์ และก็รับคำขอโทษแล้ว.
