เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลส่งเสริมการเข้าถึงอาชีพ ให้มีงาน มีเงิน กับแรงงานทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้แรงงานไทยทำงานในต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย เข้าถึงการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม รวมถึงมุ่งเตรียมความพร้อมและพัฒนาแรงงานไทยให้เป็นแรงงานศักยภาพสูงสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในต่างประเทศ โดยเชื่อมั่นว่าจะขยายตลาดแรงงานไทยในต่างประเทศ จำนวน 100,000 อัตรา ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานระบุว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ต่างประเทศทั่วโลกรวม 118,080  คน พบว่าประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่แรงงานไทยเดินทางไปทำงานมากที่สุด คือ ไต้หวัน รองลงมาคือเกาหลีใต้ และสาขาอาชีพที่แรงงานไทยนิยมทำงานในต่างประเทศ ได้แก่ ภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมตามลำดับ ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2566) ไทยส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 21,281 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศจากการส่งเงินกลับประเทศของแรงงาน เป็นมูลค่า 58,687 ล้านบาท

นายชัย กล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงานระบุเพิ่มเติมว่า สาขาช่างถือเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอุตสาหกรรมในต่างประเทศเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่างเชื่อม กระทรวงแรงงานจึงร่วมมือกับภาคเอกชนในการยกระดับทักษะแรงงานที่มีความสามารถด้านการช่าง ให้สอดคล้องกับความต้องการของนายจ้างในต่างประเทศ ผ่านการอบรมและทดสอบทักษะฝีมือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายจ้างว่าผู้ที่ผ่านฝึกอบรม มีความรู้ ทักษะ และสามารถไปทำงานในต่างประเทศในฐานะแรงงานฝีมือ ซึ่งจะทำให้แรงงานไทยได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมหรือทดสอบมาตรฐานฝีมือ สามารถติดต่อที่สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับแรงงานทุกกลุ่ม เพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคง สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ พร้อมมุ่งขยายตลาดแรงงานต่างประเทศ และส่งออกแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพ มีทักษะ ไปทำงานในต่างประเทศ สร้างรายได้กลับเข้าประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำด้วยความห่วงใยว่า ขอให้ติดต่อทำงานต่างประเทศผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบของรัฐบาล เดินทางไปอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองและสวัสดิการตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ” นายชัย กล่าว