เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 2 ก.พ. 67 ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้ง คณะอนุ กมธ. ขึ้นมา 9 ชุด ชุดละ 10 คน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย โดยเริ่มประชุมนัดแรกในวันนี้ พร้อมขอให้คณะอนุฯ เข้าประชุม กมธ.งบชุดใหญ่ด้วย ทั้งนี้ ตนอยากขอบคุณการร่วมมือกันของอนุชุดต่างๆ ซึ่งมีทั้งบุคคลจากพรรคและบุคคลภายนอก โดยตนให้แนวทางว่า การพิจารณางบควรจะเป็นกรอบเดียว และหาข้อสรุปร่วมกัน เราไม่ได้ทำงานให้กับพรรค แต่ทำงานเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศ เพื่อจะได้ร่วมมือกันทำงานด้วยดี ส่วนความเห็นที่แตกต่าง ก็ไม่ใช่ปัญหาในการทำงาน เพราะระบอบประชาธิปไตยต้องเคารพความเห็นที่แตกต่าง และทำให้เรามองประเด็นได้รอบด้านมากขึ้น จึงไม่อยากให้ใช้วิธียกมือว่าจะเอาความคิดใดเป็นหลัก อยากให้คุยหาข้อสรุป เข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่า ให้ยึดเรื่องนี้เป็นแนวทาง

“เรามีหน้าที่ดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด เพราะงบปี 67 ภาวะไม่ปกติ จึงอยากให้รีบทำ เพราะรัฐบาลได้ทำโครงสร้างพื้นฐานคิดไว้แล้ว หากใช้งบส่วนนี้ได้เร็ว ก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชน ส่วนการปรับ ลด งบประมาณ ขอให้ดูว่าโครงการที่เสนอมาสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แม้จะเป็นโครงการที่คิดมาดีแล้ว แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนไป ก็สามารถปรับลดงบประมาณลงได้ และต้องเคร่งครัดกับกรอบกฎหมาย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ต้องไม่ไปก้าวล่วงหรือเกี่ยวข้อง วันนี้เราใช้วิธีการใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเดิมเราใช้แบ่งภาพรวม ซึ่งทำให้มีปัญหาว่าหน่วยราชการทำงานหนักต้องวิ่งไปวิ่งมาจนลำบาก จึงใช้วิธีรวมเป็นรายมาตรา ทำให้แต่ละกระทรวงสามารถชี้แจงจบได้ภายใน 1-2 วัน หากได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็จะเป็นแนวทางในอนาคต เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเร็วที่สุด แต่หากไม่เป็นอย่างที่หวัง ก็พร้อมที่จะกลับไปใช้ระบบเดิม” ประธาน กมธ.งบฯ ปี 67 กล่าว

เมื่อถามถึง กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งคณะอนุ กมธ. ตามรายกระทรวงนั้น เป็นการปกป้องงบของกระทรวงตนเอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปกป้องไม่ได้ เพราะ กมธ.ชุดใหญ่ มาจากทุกภาคส่วนทางการเมือง สุดท้ายแม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง กมธ.ชุดใหญ่ก็ต้องเป็นผู้ตัดสินใจอยู่ดี อย่ากังวลเกินไป การที่เราเชิญบุคคลภายนอกหรือตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง ล้วนช่วยให้การดำเนินงานคล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น หากตั้งใจจะทำเพื่อเอื้อประโยชน์เช่นนั้น อยู่ตรงไหนก็ทำได้ เจตนาแบบนี้สามารถแฝงไปได้ทั้งนั้น วันนี้เราเปิดเผยต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราดำเนินการมา 17 วัน ภายในกรอบระยะเวลา 105 วัน จะพยายามจะทำให้เสร็จก่อนอย่างน้อย 15 วัน หรืออาจเร็วกว่านั้น หากทุกอย่างเดินไปด้วยดี เพราะหากรีบทำให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด เราจะมีงบประมาณเพื่อไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เร็วที่สุด.