สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ว่า กระทรวงเศรษฐกิจคิวบาออกแถลงการณ์ เลื่อนมาตรการขึ้นราคาเชื้อเพลิงออกไปก่อน “อย่างไม่มีกำหนด” เนื่องจากตรวจพบ “การโจมตีทางไซเบอร์ซึ่งมีต้นทางจากต่างประเทศ”
ขณะที่ประธานาธิบดีมิเกล ดิแอซ กาเนล ผู้นำคิวบา ปลดนายอเลฮันโดร กิล ออกจากตำแหน่ง รมว.เศรษฐกิจ และแต่งตั้งนายวาคีน อลองโซ ประธานธนาคารกลางคิวบา ให้รับตำแหน่งแทน จากการที่มาตรการดังกล่าว สร้างความตื่นตระหนกอย่างหนักให้กับประชาชน นับตั้งแต่มีการประกาศ
เดิมที คิวบามีแผนบังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินธรรมดาจะเพิ่มขึ้นจาก 25 เปโซ (ราว 36.91 บาท) เป็น 132 เปโซต่อลิตร (ราว 194.88 บาท) ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินแบบพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นจาก 30 เปโซ (ราว 44.29 บาท) เป็น 156 เปโซต่อลิตร (ราว 230.31 บาท)
Fuel price update postponed in Cuba.https://t.co/22sm6D3gRB pic.twitter.com/FdMX77GGZh
— Cuban Embassy in US (@EmbaCubaUS) February 1, 2024
ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถือเป็นการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงมากกว่า 500% เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณ ท่ามกลางช่วงเวลาที่คิวบายังคงเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับร้ายแรง โดยคาดการณ์ของภาครัฐระบุว่า เศรษฐกิจของคิวบาหดตัว 2% เมื่อปี 2566 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 30%
ในเวลานั้น กระทรวงเศรษฐกิจคิวบาให้เหตุผลว่า ภาครัฐไม่สามารถดำเนินมาตรการอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงให้แก่ประชาชนได้อีกต่อไป ซึ่งส่งผลให้คิวบาเป็นหนึ่งในประเทศมีราคาเชื้อเพลิงถูกที่สุดในโลก แต่กลับสวนทางกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยังคงเผชิญกับมาตรการปิดล้อมทางอาวุธจากสหรัฐ และการขาดแคลนเงินสำรองระหว่างประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP