เมื่อวันที่ 3 ก.พ. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระบุว่า ราคาประมูลยางพาราประจำวัน ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ในเดือน ม.ค. 2567 กิโลกรัม (กก.) ละ 72 บาท จากเดิมราคา กก. ละ 57 บาท ขณะที่ข้อมูลของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ระบุราคายาง ณ วันที่ 2 ก.พ. 2567 สำนักงานตลาดกลางยางพารา จ.สงขลา ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (ไม่อัดก้อน) อยู่ที่ กก. ละ 72.69 บาท ซึ่งราคายางพาราที่พุ่งสูงขึ้นนี้ เป็นผลจากมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อนอย่างเข้มงวดจริงจังของรัฐบาล

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า มาตรการปราบปรามดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ทหาร และตำรวจ ซึ่งส่งผลให้ราคายางพารา (ยางแผ่นรมควันชั้น 3) ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงปลายเดือน ม.ค. 2567 เพิ่มจาก กก. ละ 57 บาท เป็น กก. ละ 72 บาท ขณะที่เกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ สามารถกรีดยางได้วันละประมาณ 14 ล้าน กก. ดังนั้น ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้ สามารถทำให้รายได้รวมของเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศเพิ่มขึ้นวันละ 210 ล้านบาท และถ้าตลอดทั้งปี ราคายางไม่ต่ำกว่า กก. ละ 72 บาท จะทำให้รายได้ของชาวสวนยางทั่วประเทศเพิ่มขึ้นปีละ 76,650 ล้านบาท

“ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการปราบปรามยางพาราเถื่อน ได้ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ทำให้ช่วยยกระดับราคายางพาราในประเทศขึ้นมาได้อย่างมาก และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ ให้มีรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอย่างต่อเนื่อง” นายชัย กล่าว