เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ที่นำโดยนายจำนงค์ หนูพัน แกนนำกลุ่ม ได้ทยอยเดินทางมาชุมนุมหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อทวงถามข้อเรียกร้องต่างๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยแกนนำกลุ่มดังกล่าวประกาศจะปักหลักชุมนุมบริเวณนี้จนกว่าจะได้รับคำตอบจากรัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมาปิดเส้นทางจราจรในถนนพิษณุโลก ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐไปจนถึงแยกสวนมิสกวัน อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในและนอกเครื่องแบบอยู่เต็มพื้นที่ช่องทางในสุดของถนนราชดำเนินนอก ตลอดแนวบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความเรียบร้อยรอบทำเนียบรัฐบาล จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การจราจรรอบทำเนียบรัฐบาลติดขัดอย่างมาก ทั้งถนนพิษณุโลก ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชยการถึงแยกวัดเบญจมบพิตรฯ และถนนราชดำเนินนอก

ทั้งนี้ เวลา 09.25 น. พ.ต.อ.ณรัชพงศ์ กิรัมย์ ผกก.สน.ดุสิต เดินทางมาพูดคุยกับแกนนำพีมูฟ และแจ้งประกาศ คำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ห้ามชุมนุมสาธารณะ ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร ให้ผู้ชุมนุมรับทราบ และเคลื่อนย้ายออกจากบริเวณ ประตู 4 ฝั่งถนนพิษณุโลก ภายในเวลา 12.00 น. ขณะที่นายจำนงค์รับทราบ แต่ยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมบนทางเท้าของถนนพิษณุโลกต่อไป และภายหลังการพูดคุยดังกล่าวเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ย้ายแผงเหล็กออกจากสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อเปิดหนึ่งช่องทางจราจรของถนนพิษณุโลกให้ประชาชนสัญจรผ่านได้

จากนั้น เวลา 10.30 น. นายจำนงค์ปราศรัยทวงถามความคืบหน้าของการเรียกร้อง 3 ข้อที่กลุ่มนี้เคยมายื่นหนังสือไว้ก่อนหน้านี้ โดยเรียกร้องให้หยุดบังคับประชาชนรับโฉนดชุมชน โดยให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) พูดคุยหารือกับทางกลุ่มเพื่อแก้ปัญหา นอกจากนี้ขอให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเจรจา กับตัวแทนพีมูฟ เพื่อแก้ไขปัญหาทรัพยากรร่วมกัน ไม่ใช่ปล่อยให้ไปอยู่ในมือนายทุน แทนการดำเนินคดี และไล่ที่ชาวบ้าน และขอให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เร่งจัดการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ นอกจากนี้ขอให้รัฐบาลเร่งผลักดันการแก้ปัญหาด้านต่างๆ ตามที่เคยได้หารือไว้กับกลุ่มพี่หมูทั้งเรื่องของสวัสดิการประชาชน การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการเรียกร้องของพีมูฟไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนทุกกลุ่ม เพราะข้อเรียกร้องต่างๆ ของเราเป็นสิ่งที่ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากประชาชนกลุ่มต่างๆ มาแล้ว

ต่อมา เวลา 11.10 น.  ตัวแทนกลุ่มพีมูฟได้อ่านแถลงการณ์โดยมีใจความว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งเชิงนโยบายและรายกรณีของรัฐบาลชุดนี้ล่าช้า และไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับปากไว้กับประชาชน และเปิดทางให้ราชการใช้อำนาจกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรมไล่รุกชาวบ้าน จึงถึงเวลาทวงสัญญาประชาชน โดยพีมูฟขอเปิดศักราชการชุมนุมในปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องทั้งหมด ได้แก่ 1.เดินหน้าโฉนดชุมชน ยุติการคุกคามประชาชน โดยคทช.ต้องเปิดประชุมคณะกรรมการโฉนดชุมชน 2.ขอเปิดเจรจาหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อแก้ปัญหาเรื่องด่วนที่เกี่ยวข้องกับทส. 3.เปิดประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งมี ร.อ.ธรรมนัส เป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ

ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับแกนนำกลุ่มพีมูฟให้ย้ายสถานที่ชุมนุมจากบริเวณประตู 4 ถนนพิษณุโลก ไปอยู่บริเวณถนนนครปฐม ริมคลองเปรมประชากร ข้างสำนักงาน ก.พ.เดิม เพื่อเป็นการไม่รบกวนผู้ใช้เส้นทาง อีกทั้งในวันที่ 7 ก.พ.นี้ มีกำหนดการต้อนรับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในฐานะแขกของรัฐบาล ที่ทำเนียบรัฐบาล จึงต้องเตรียมพร้อมเรื่องของสถานที่ โดยแกนนำกลุ่มพีมูฟระบุจะปักหลักเพื่อขอเจรจากับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และร.อ.ธรรมนัส เพื่อหาข้อยุติก่อน