เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่รัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ยื่นร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช. ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะมีการยื่นร่างประกบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้มอบหมายให้ นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และคณะให้ไปศึกษาคำสั่ง คสช.ทั้งหมด ในขณะที่สภาก็มีฉบับของนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เรื่องการแก้ไขคำสั่งที่ 14 ให้ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คงออกมาเร็วๆ นี้เพราะไม่ใช่เรื่องยาก ทางภูมิใจไทยยื่นมา เราก็เป็นวิปรัฐบาลร่วมกัน เราก็ต้องนำมาดูและพูดคุยกัน เพื่อทำให้กฎหมายดีที่สุด อะไรที่จะต้องยกเลิกก็ต้องยกเลิก อะไรที่ยังเป็นประโยชน์ก็นำมาปรับปรุงใหม่ ส่วนจะยื่นเข้ามาเมื่อไหร่นั้น นายครูมานิตย์ระบุว่า จะไปสอบถามที่ประชุม สอบ สส.พรรคในวันพรุ่งนี้
นายครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มอบหมายให้นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามกฎหมายของทุกกระทรวงที่นำมาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะกฎหมายคือเครื่องมือ เราเองก็เห็นว่ากฎหมายที่ร่างโดยรัฐบาลยังเข้าสภาน้อยไป ทางพรรคเองก็ได้กำชับเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกรณีกรอบเวลาที่ ครม.ให้กรอบอภิปรายกับ สว.ดูจะล่าช้าไปนั้น นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ถ้าดูเนื้อหากันจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมาอภิปรายเรื่องอะไร และเป็นครั้งแรกด้วยตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 60 ที่สว.ขออภิปรายรัฐบาลโดยใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 153 และใช้ข้อบังคับของวุฒิสภา 171 ซึ่งเป็นสิทธิ แต่หากถามว่าช้าไปหรือไม่ ก็ไม่ถึงกับช้า ก็ต้องเห็นใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เนื่องจากต่างคนต่างมีภารกิจที่จะแก้ปัญหา และเท่าที่ทราบเรื่องที่ สว.จะอภิปราย อาทิ เรื่องแลนด์บริดจ์ ดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ก็เป็นที่ปรากฏชัดในเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ความเห็นอย่างไร
นายครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องแลนด์บริดจ์ที่ตนเป็นรองคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการทำแลนด์บริดจ์ ขณะนี้กำลังทำรูปเล่มแล้วเพื่อนำสู่การประชุมสภา และหลังจากนั้นต้องขอมติสภาเพื่ออนุมัติให้ผ่าน หากสภาอนุมัติให้ผ่าน ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการทำ พ.ร.บ. ซึ่งมีหลายประเทศให้ความสนใจร่วมทุน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่สามารถมองเห็นได้ในวันนี้ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจบางเรื่องก็ดีขึ้น บางเรื่องก็ไม่ดี เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเราก็ต้องแก้กันไป ดังที่ทราบว่านายกฯ ก็ไม่ได้พักผ่อนเลยจนล้มป่วย เพราะท่านพยายามที่จะแก้ปัญหาในทุกมิติ
เมื่อถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขยับวันอภิปรายให้เร็วขึ้น นายครูมานิตย์ กล่าวว่า คงจะลำบาก เพราะเท่าที่ทราบน่าจะเป็นวันที่ 20 มี.ค.นี้ ถ้าขยับให้เร็วขึ้นก็คงจะเป็นวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งตอนนี้ทางรัฐบาลก็ส่งเรื่องมาให้วิปรัฐบาลได้พิจารณาถึงเรื่องจำนวนเวลา ส่วนเรื่องวันก็เป็นเรื่องของ ครม. วิปไม่สามารถไปตอบแทนได้ ส่วนเรื่องของเวลา วิปอาจจะเสนอว่า ให้พิจารณาจากเนื้อหาสาระว่าต้องใช้เวลาเท่าไร ที่จะให้วุฒิสมาชิกอภิปรายและสอบถาม ในเบื้องต้นคิดว่าจะใช้เวลา 13 ชั่วโมง โดยใช้เวลาภายใน 1 วัน โดยให้เวลา สว. 10 ชั่วโมง รัฐบาลอีก 3 ชั่วโมง รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลามากกว่านั้นในการตอบ
“แต่เท่าที่คุยกับวุฒิสมาชิกบางคน เขาก็บอกว่าไม่รู้จะอภิปรายในแง่มุมตรงไหน เราดูจากการลงชื่อแค่ 89 คน ส่วนที่เหลืออีกเป็นร้อย ยังหาแง่มุมยังยากอยู่” นายครูมานิตย์กล่าว.