เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการโอนถ่ายกิจการเชิงธุรกิจของกองทัพ ว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณาเรื่องสวัสดิการเชิงธุรกิจของกองทัพ ซึ่งมีโจทย์ที่ต้องคิดหลายเรื่อง อย่างเช่น กรณีโรงไฟฟ้าสัตหีบของกองทัพเรือ ซึ่งญัตติของ สส. อยากให้คืนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) ซึ่งตนตอบได้เลยว่า หากพิจารณาแล้วอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่สุด กองทัพยอมหมด แต่หากคืนไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ ก็ต้องทบทวน โดยวันนี้กองทัพยอมรับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งกรณีของโรงไฟฟ้าดังกล่าว กองทัพคืนได้ แต่จะกันเอาไว้เฉพาะส่วนที่ใช้ในกองทัพเท่านั้น ตามเหตุผลความมั่นคง ส่วนที่ให้บริการประชาชน ก็ให้สอบถามประชาชน หากประชาชนบอกว่าอยากจะไปใช้กับ กฟผ. ก็เป็นไปตามนั้น แต่อาจจะมีการชดเชยให้กองทัพที่ลงทุนไป กองทัพก็ไม่ขัดข้อง
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีสนามกอล์ฟของกองทัพอากาศนั้น ให้ดูเหตุผล ถ้าพบว่าไม่จำเป็น หรือใช้ทำอย่างอื่นดีกว่า ก็อยากให้ลองพูดคุยกัน อย่างเช่น สนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ หรือสนามกอล์ฟอื่นที่อยู่ในพื้นที่ทหาร ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ความมั่นคงด้วย ซึ่งกรณีของสนามกอล์ฟดังกล่าว ทอ. อธิบายว่าเป็นเขตร่อนของเครื่องบินขึ้น-ลง ซึ่งอาจต้องสงวนไว้ หากเกิดปัญหาในภายภาคหน้า จะต้องมีการปฏิบัติยุทธการ ทอ. จึงต้องขอสงวนพื้นที่นี้ไว้ ขณะเดียวกันมีหลายพื้นที่มีเหตุผลอยู่ จึงอยากให้ กมธ.วิสามัญฯ นำไปพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคำนึงถึงเรื่องความมั่นคง