เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 67 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ “จิสด้า” เปิดเผยข้อมูลจุดความร้อนเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,133 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 363 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 303 จุด พื้นที่เกษตร 194 จุด ชุมชนและอื่นๆ 155 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 112 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด

โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรกคือ #กาญจนบุรี 264 จุด #ชัยภูมิ 156 จุด และ #ลำปาง 57 จุด นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน คือ กัมพูชา 1,001 จุด เมียนมา 833 จุด เวียดนาม 456 จุด และลาว 367 จุด

ขณะเดียวกันจิสด้า ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 ก.พ. 67 พบ 11 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ คือ มุกดาหาร 87.7 ไมโครกรัม, กาฬสินธุ์ 81.9 ไมโครกรัม, ยโสธร 80.3 ไมโครกรัม, สิงห์บุรี 77.7 ไมโครกรัม, ร้อยเอ็ด 77.4 ไมโครกรัม, สมุทรสงคราม 76.7 ไมโครกรัม, ชัยนาท 76.1 ไมโครกรัม, นครสวรรค์ 76.0 ไมโครกรัม, มหาสารคาม 75.4 ไมโครกรัม, อุบลราชธานี 75.3 ไมโครกรัม และอำนาจเจริญ 75.2 ไมโครกรัม

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่ามีเพียงเขตเดียวที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม คือ #หนองแขม 49.9 ไมโครกรัม ในส่วนของ 49 เขตที่เหลือ ยังมีค่าคุณภาพอากาศปานกลาง ไปจนถึงคุณภาพอากาศดี

ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับสีส้มต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ดาวน์โหลดใช้งานแอปพลิเคชัน เพียงท่านพิมพ์คำว่า เช็คฝุ่น ทั้งในระบบ IOS และ Android สามารถใช้งานได้เลยทันที