เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร ภายใต้สิทธิบัตรทองอย่างต่อเนื่อง โดยได้บรรจุสิทธิประโยชน์ในการรักษามะเร็งเพิ่มเติม อาทิ บริการฝังแร่เฉพาะที่ เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในตา บริการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง มะเร็งตับและตับอ่อน และท่อน้ำดี ด้วยหุ่นยนต์ และบริการรักษาด้วยรังสีโปรตอน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มการบริการ 2 รายการ เพื่อการตรวจคัดกรองมะเร็งเชิงรุก ได้แก่ บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ในผู้หญิงไทยอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ครอบครัวมีประวัติมะเร็งเต้านม ปีละ 1 ครั้ง กำหนดเป้าหมายบริการตรวจคัดกรองในปี 2567 จำนวน 40,600 ราย, บริการการตรวจปัสสาวะชุดตรวจพยาธิใบไม้ในตับสำเร็จรูปชนิดเร็ว ด้วยตนเอง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนไทยทุกสิทธิที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ในตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดีด้วยตนเอง โดยทั้ง 2 รายการนี้ อยู่ระหว่างการจัดวางระบบให้มีประสิทธิภาพ

นายชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ รัฐบาลได้จัดระบบดูแลผู้ป่วยมะเร็งในระยะสุดท้าย โดยกำหนดให้หน่วยงานหรือองค์กรที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยติดเตียง บริการดูแลแบบประคับประคองและระยะท้าย อาทิ วัด โบสถ์คริสต์ มัสยิด องค์กรเอกชน และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เป็นหน่วยบริการส่งต่อเฉพาะด้านชีวาภิบาล หรือหน่วยชีวาภิบาล ในฐานะสถานบริการสาธารณสุขที่ถูกต้องตามมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการป้องกันคัดกรอง ดูแลรักษา และฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร พร้อมกับสนับสนุนให้ผู้ใช้บัตรทอง 30 บาท ได้รับการบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมตามเป้าหมายของตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุม ทั่วถึงเท่าเทียม จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

“นายกฯ ขอบคุณการทำงานของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข และบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถบริหารและตอบสนองต่อแนวนโยบายของรัฐบาลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจความตั้งใจของรัฐบาล ที่จะทำให้บัตรประชาชนใบเดียว ดูแลสุขภาพประชาชน รักษาได้ทุกที่ ทุกโรค” นายชัย กล่าว