เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่รัฐสภา นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ในฐานะแนวร่วมเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร‘ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ผ่านระบบสารบรรณสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ซึ่งอาจขัดจริยธรรม กรณีว่าจ้างสนับสนุนการละเมิดกฎหมาย (PDPA) และขอให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
โดยนายทันกวินท์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา นายศุภณัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งมีลักษณะเป็นการดูหมิ่นประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชน ผู้กระทำความผิดทางอาญา และมีลักษณะเป็นการข่มขู่ว่าจะฟ้องปิดปากประชาชน รวมถึงได้ใส่ความกองทัพว่ามีการกระทำทุจริต ซึ่งต่อมาผู้ถูกร้องได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีออนไลน์ส่วนตัว ว่าจะดำเนินคดีอาญาแก่ประชาชนตามที่ได้ท้าทายไว้ และเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา 2567 บุคคลซึ่งใช้บัญชีติ๊กต็อก จำนวน 3 ราย ได้แก่ @nui_wipavee @jackass_v4 และ @mondayyu01 ได้ร่วมกันสนทนาผ่านระบบออนไลน์กับผู้ร้อง ในลักษณะเป็นการถ่ายทอดสด เพื่อสอบถามที่มาของข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร้อง ซึ่งเมื่อการสนทนาเสร็จสิ้น ปรากฏว่ามีการนำส่งบันทึกการสนทนานั้นให้กับผู้ถูกร้อง และปรากฏข้อความว่า ผู้ถูกร้องได้ทราบบันทึกนั้นแล้วจะดำเนินคดีต่อไป ทั้งที่การบันทึกและเผยแพร่บันทึกนั้นผู้ร้องไม่อนุญาต การกระทำของเจ้าของบัญชี @nui_wipavee ซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูล จึงมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่ผู้ถูกร้องกลับมิได้ห้ามปรามบุคคลใกล้ชิดนั้น เพื่อป้องกันมิให้มีการละเมิด หรือกระทำผิดกฎหมาย
นายทันกวินท์ กล่าวต่อว่า พฤติการณ์ของผู้ถูกร้องเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 17 และข้อ 22 จึงขอยื่นหนังสือฉบับนี้ เพื่อโปรดดำเนินการตามกฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนในเบื้องต้นอาจไม่เป็นไปตามระเบียบ หรือเรื่องร้องเรียนไม่ชัดเจน หรือบกพร่องในสาระสำคัญ ผู้ร้องขอแสดงความประสงค์จะร้องเรียนด้วยวาจา ตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ ข้อ 25 เพื่ออธิบาย ตอบข้อซักถาม และนำส่งพยานหลักฐานประกอบเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบ และรวบรวมเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการพิจารณาต่อไป
นายทันกวินท์ ยังกล่าวถึงการขอให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ว่าด้วยข้อบังคับว่าด้วยประมาลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 25 ได้กำหนดให้คณะกรรมการมีหน้าที่ และอำนาจส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อบังคับนี้อย่างเคร่งครัดว่า ปรากฏว่าในช่วงก็ผ่านมา ผู้ร้องได้มีหนังสือร้องเรียนหลายฉบับ เพื่อขอให้คณะกรรมการรับและพิจารณา เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับจริยธรรมของสมาชิกหรือกรรมาธิการกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ทั้งนี้ การกำกับดูแล สส. และกรรมาธิการ เป็นหน้าที่และอำนาจโดยชัดแจ้งของคณะกรรมการจริยธรรม จำนวนเรื่องร้องเรียนย่อมเป็นตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติหน้าที่ และใช้อำนาจดังกล่าว จำนวนเรื่องร้องเรียนที่เพิ่มขึ้น ย่อมแสดงถึงการไม่ปฏิบัติการกิจของคณะกรรมการ ทั้งย่อมถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายทันกวินท์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับ ผู้ร้องในฐานะที่เป็นประชาชน จึงขอยื่นหนังสือฉบับนี้ เพื่อโปรดดำเนินการตามข้อบังคับโดยเคร่งครัด หากปรากฏว่ายังคงมี สส. หรือกรรมาธิการกระทำการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ และไม่ปรากฏว่า คณะกรรมการจริยธรรมได้ส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ ผู้ร้องจะดำเนินการต่อหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อร้องเรียน และกล่าวหาว่า ประธานและกรรมการในคณะกรรมการจริยธรรม กระทำความผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และได้ปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป.