สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ว่า ติ๊กต็อก แอปพลิเคชันแชร์วิดีโอยอดนิยม อยู่ในรายชื่อแพลตฟอร์มออนไลน์ “ขนาดใหญ่มาก” ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ภายใต้กฎหมายการให้บริการดิจิทัล (ดีเอสเอ) ส่งผลให้บริษัทต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ให้กับคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เพื่อเป็นเงินทุน สำหรับการบังคับใช้ดีเอสเอ
อย่างไรก็ตาม ติ๊กต็อก ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับวิธีการคำนวณค่าธรรมเนียม แม้บริษัทยืนยันการชำระเงินตามรอบกำหนด เมื่อปีที่แล้วก็ตาม
“เราไม่เห็นด้วยกับค่าธรรมเนียมดังกล่าว และกำลังยื่นอุทธรณ์ด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งรวมถึงการใช้บุคคลที่สาม ซึ่งมีข้อบกพร่อง ในการประมาณการจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละเดือนของพวกเรา เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการคำนวณจำนวนเงินทั้งหมด” โฆษกของติ๊กต็อก กล่าวในแถลงการณ์
TikTok said on Thursday it is challenging an EU fee to enforce a content moderation law, a day after Facebook owner Meta announced a similar move.#TikTok#DailyTribune
— Daily Tribune (@tribunephl) February 8, 2024
Read more at: https://t.co/GMwHmO3hFH
อีกด้านหนึ่ง เมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ระบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่าบริษัทไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ใช้ในการคำนวณค่าธรรมเนียมเช่นกัน
ทั้งนี้ ดีเอสเอ บังคับให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ดำเนินการมากขึ้น เพื่อควบคุมเนื้อหาในโลกออนไลน์ และปกป้องผู้ซื้อของทางออนไลน์จากการหลอกลวงต้มตุ๋น ซึ่งกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้กับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อปีที่แล้ว และจะขยายการบังคับใช้ไปยังบริษัททุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 2567 เป็นต้นไป
ขณะที่โฆษกของอีซี กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมข้างต้นจำคำนวณตาม “สัดส่วนขนาดของบริการ” โดยสะท้อนจากจำนวนผู้ใช้งานในอียู และจะต้องไม่สูงเกินเพดานโดยรวม สำหรับผู้ให้บริการแต่ละราย ซึ่งถูกกำหนดไว้ที่ 0.05% ของรายได้สุทธิทั่วโลกต่อปี.
เครดิตภาพ : AFP