เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม ร่วมแถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ชื่อพระราชพิธีว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” และพระราชทานแบบตราสัญลักษณ์สำหรับใช้ในโอกาสต่าง ๆ พร้อมทั้งนำมาจัดทำเข็มที่ระลึก เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนใช้ประดับและเก็บเป็นที่ระลึก โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้ยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ สำหรับการจัดพิธีการในนามรัฐบาลนั้น ประกอบด้วยการจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ การจัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์การจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ การจัดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล งานสโมสรสันนิบาต และการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ รัฐบาลได้เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้เสนอโครงการและกิจกรรมที่มีลักษณะการดำเนินงาน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สนับสนุนโครงการ หรือ กิจกรรมอันเนื่องมาจากพระราชปณิธาน พระราชดำริ พระบรมราโชวาท หรือพระราชกรณียกิจ เข้าร่วมเป็นโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ โดยคำนึงถึงความจำเป็น รวมถึงเกิดประโยชน์ต่อสังคมและประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นมีโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ โครงการที่เสนอโดยรัฐบาล คือ 1.โครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระราชกุศล 2.โครงการจัดสร้างเหรียญที่ระลึก เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ 3.โครงการจัดสร้างดวงตราไปรษณียากรที่ระลึก ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสั่งจองได้ในเดือน มี.ค. นี้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ และเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย 4.โครงการจัดทำธนบัตรที่ระลึก ซึ่งจะมีการนำมาออกใช้ในเดือน ก.ค. นี้ 5.กิจกรรมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากประเทศอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะที่โครงการที่เสนอโดยหน่วยงานภาครัฐ อาทิ โครงการพาหมอไปหาประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุข และโครงการเดิน-วิ่ง-ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 โดยคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ส่วนการขอใช้ตราสัญลักษณ์ฯ ได้พิจารณาอนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม ชมรม และบริษัท ห้างร้าน เชิญตราสัญลักษณ์ ไปประดับหรือประดิษฐานบนสิ่งของต่างๆ รวม 685,528 ชิ้น รัฐบาลจึงขอเชิญชวนหน่วยงานทุกภาคส่วนและพสกนิกรปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั้งที่อยู่ในและต่างประเทศ พร้อมใจกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยดำเนินการตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเครื่องราชสักการะ และประดับธงชาติไทยพร้อมธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธี กับประดับตราสัญลักษณ์พระราชพิธี ตามสถานที่ของหน่วยงานและอาคารบ้านเรือน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตลอดทั้งปี
ขณะที่นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ประชาชนจะได้ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย ซึ่งมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในไทย โดยจะมีขบวนอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 23 ก.พ. 2567 เวลา 16.00 น. และจะเปิดให้ประชาชนสักการะตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.-3 มี.ค. 2567 เวลา 09.00-20.00 น. จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานใน 3 จังหวัด คือ จ.เชียงใหม่ วันที่ 5-8 มี.ค. 2567, จ.อุบลราชธานี วันที่ 10-13 มี.ค. 2567 และ จ.กระบี่ วันที่ 15-18 มี.ค. 2567

ด้านนางพวงเพ็ชร กล่าวว่า รัฐบาลได้ดําเนินการประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 มาอย่างต่อเนื่อง โดยขอความอนุเคราะห์จากสถานีวิทยุโทรทัศน์ทุกช่อง ประดับตราสัญลักษณ์งาน เฉลิมพระเกียรติฯ บริเวณมุมจอโทรทัศน์ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนหน่วยงาน และ ประชาชนจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชา ประดับธงชาติ และธงตราสัญลักษณ์ นอกจากนี้ได้นําเสนอพระราชประวัติพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณด้านต่างๆ ในรูปแบบบทความเฉลิมพระเกียรติฯ ออกอากาศทุกวัน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 92.5 MHz ช่วงเวลา 07.30 น. และ 18.00 น. และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่ง ประเทศไทย NBT รวมทั้งนิทรรศการออนไลน์ ซึ่งสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับงานพระราชพิธี งานรัฐพิธี งานศาสนพิธี รวมถึงกิจกรรมสำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ที่เว็บไซต์ www.phralan.in.th และเฟซบุ๊ก “พระลาน” จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมที่ทุกภาคส่วนจัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดทั้งปี
