เมื่อวันที่ 10 ก.พ. นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า กรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุว่ายังไม่เห็นรายชื่อนายทักษิณ ชินวัตร ในรายชื่อการพักโทษของกรมราชทัณฑ์นั้น พ.ต.อ.ทวี ทำไขสือ เพราะรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีชื่อนายทักษิณ ในรายชื่อดังกล่าวอย่างแน่นอน แล้วมาทำหน้าตายและบอกว่าไม่รู้ จึงอยากถามว่า พ.ต.อ.ทวี กำลังเล่นละครหลอกคนไทยใช่หรือไม่ และการที่ รมว.ยุติธรรม บอกให้กรมราชทัณฑ์รักษาสิทธิขององค์กร ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ควรรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกรมราชทัณฑ์ที่มีมากว่า 100 ปี โดยอย่าให้ฝ่ายการเมืองไปแทรกแซงแล้วย่ำยีและบีบบังคับ หากกรมราชทัณฑ์จะฟ้องร้องตนตามที่ พ.ต.อ.ทวี ระบุ ก็ขอให้รีบฟ้องแล้วไปเจอกันที่ศาลยุติธรรม
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่านายทักษิณป่วยจริง ไม่ได้ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว ตนจึงทำหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม ให้ไปตรวจสอบที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ปรากฏข่าวเลยว่า พ.ต.อ.ทวี ไปพิสูจน์ความจริงที่ชั้น 14 ทั้งนี้ ขออย่าใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือทางการเมือง และข้าราชการก็ควรมีสำนึกในความเป็นข้าราชการ อย่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของนักการเมือง ซึ่งที่ผ่านมา อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยอมตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และในที่สุดก็ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปี โดยทุกวันนี้ยังอยู่ที่ชั้น 7 โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่มีวาสนาไปรักษาตัวนอกคุกเหมือนนายใหญ่ แต่วันนี้ก็มีข่าวว่า มีข้าราชการบางคนในกรมราชทัณฑ์และดีเอสไอ ยอมตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้รัฐบาล ไล่ล่าบุคคลในพรรคการเมืองอื่นๆ เช่น เรื่องแรงงานเมืองนอก เรื่องหมูเถื่อน ไก่เถื่อน เป็นต้น
นายวัชระ กล่าวว่า พ.ต.อ.ทวี ต้องช่วยสอดส่องดูแลให้ข้าราชการเป็นมืออาชีพ อย่าเป็นทาสนักการเมือง อย่าประจบสอพลอเอาใจนาย เพราะมีกรณีของอดีตอธิบดีดีเอสไอ อดีตอธิบดีกรมการค้า อดีต รมว.พาณิชย์ กรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย เป็นตัวอย่างให้เห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่ในเรือนจำ ดังนั้นทางรอดของข้าราชการมีทางเดียว คือต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการตรงไปตรงมา อย่าเกรงใจคนมีอำนาจ จึงจะเกษียณอายุอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข และไม่ต้องติดคุกในวันหน้า.