เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่มีบางฝ่ายเรียกร้องขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่กำหนดปริมาณการครอบครองยาเสพติดไม่เกิน 5 เม็ด ถือเป็นผู้เสพ ว่า กระทรวงสาธารณสุขกำหนดปริมาณวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 ประเภทที่ 2 ประเภทที่ 5  ซึ่งออกกฎกระทรวงไปเมื่อวันที่  9 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนจะทบทวนหรือไม่นั้น ก็ต้องถามว่าคนที่ขอให้ทบทวนเป็นใคร กลุ่มไหน ด้วยเหตุผลอะไร เพราะก่อนออกมาเป็นกฎกระทรวง เราทำร่างมาก่อน และเข้าสู่การรับฟังความคิดเห็น การทำประชาพิจารณ์ โดยใช้เวลา 15 วัน ให้ทุกคนมาแสดงความเห็น โดยหลายฝ่ายเสนอมาว่าต้องครอบครองไม่เกิน 5 เม็ด เราจึงนำความเห็นนั้นเสนอต่อ ครม. ให้เห็นชอบ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบว่าร่างฉบับดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ หลังจากนั้นตนจึงลงนามออกมาเป็นกฎกระทรวงเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา และส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงผลการบังคับใช้เป็นอย่างไรนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องดูว่าประชาชน ประเทศได้รับประโยชน์หรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีแถลงชัดเจนเรื่องยาเสพติด จะต้องป้องกัน ปราบปราม บำบัด ฟื้นฟู โดยมีนโยบายให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วย และบำบัด กลับคืนเข้าสู่สังคม เราก็ทำตามนโยบายนั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แสดงความคิดเห็นว่าทางคณะกรรมการฯ เอาสมองที่ไหนมาคิดในการออกกฎกระทรวงดังกล่าว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แต่ละคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ แต่หลักการที่ออกกฎกระทรวงหรือประกาศกระทรวงต่างกัน ต้องมีกฎหมายแม่ให้อำนาจไว้ ถึงออกได้ ตามมาตรา 107 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งเขียนไว้ 2 วรรค ว่าห้ามครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภทที่ 2 และประเภทที่ 5 โดยวรรค 2 ระบุไว้ว่า วัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 หากครอบครองจะมีความผิดตามกฎหมาย แต่ถ้าผู้ใดครอบครองในปริมาณเล็กน้อย ตามกฎกระทรวงให้สันนิษฐานว่า มีไว้เพื่อเสพ ซึ่งมีเหตุผลเพราะต้องแยกผู้เสพออกจากผู้ค้า เพราะการค้ารายย่อยจะเริ่มจากผู้เสพในปริมาณน้อยๆ จนไปเป็นผู้ค้า ถ้าเราตัดวงจรนี้ได้ ก็จะตัดวงจรผู้ค้ารายย่อย ดังนั้น การกำหนดปริมาณผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนจากคณะกรรมการทุกภาคส่วน ทั้งกรรมการบำบัดรักษาฟื้นฟูยาเสพติด ที่ตนเป็นประธาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ศาล ทหาร ตำรวจ ซึ่งข้อสรุปแบบนี้ และก็ใช้สมองของคนเหล่านี้คิด

เมื่อถามถึงสถานที่บำบัดผู้ป่วยจากยาเสพติดว่าเพียงพอหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราออกนโยบายรองรับ เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องเร่งทำให้เห็นผลภายใน 100 วัน จึงตั้งสถานบำบัดยาเสพติด ด้านการแพทย์ครบทุกจังหวัด มีการตั้งหอผู้ป่วยจิตเวช ส่วนโรงพยาบาลชุมชนที่มีประสิทธิภาพ ได้ทำเป็นมินิธัญญารักษ์ กระจายไปหลายร้อยอำเภอ ซึ่งจะสามารถรักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง และสามารถส่งต่อมารักษาที่มินิธัญญารักษ์ โดยคาดว่าใช้เวลาในการบำบัดฟื้นฟู 3-4 เดือน จึงจะผ่าน และนโยบายของนายกฯ ให้ความสำคัญกับการปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง ซึ่งชุมชนเป็นฐานในการบำบัด ซึ่งคนที่มีอาการเล็กน้อย ต้องได้รับการฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วย รวมถึงการฝึกอาชีพ การรองรับทางสังคม จนกระทั่งผ่านหลักสูตร เราจะมีหนังสือรับรองจึงจะได้ไม่ต้องรับโทษ แต่หากไม่ผ่าน ก็ต้องรับโทษตามเดิม