เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ แถลงถึงการส่งเสริมนักกีฬาไทยไปแข่งขันในเวทีนานาชาติ ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับทราบข้อมูลจากนักกีฬาและจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า นักกีฬาไทยที่ต้องเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาระดับโลกประสบปัญหาและอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอวีซ่าเพื่อไปแข่งขันกีฬาในต่างประเทศ ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีนโยบายที่อยากส่งเสริมนักกีฬาไทยทุกระดับ ทั้งนักกีฬาเยาวชน นักกีฬาสมัครเล่น และนักกีฬาอาชีพให้ได้ร่วมเวทีการแข่งขันระดับโลก ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศจึงจัดตั้งศูนย์วันสต็อปเซอร์วิสซึ่งเป็นศูนย์รับเรื่องทั้งการขอหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ของนักกีฬาเยาวชน และการประสานงานในการขอวีซ่าสำหรับการเดินทางไปแข่งขันกีฬาในต่างประเทศ โดยขั้นตอนจะเริ่มจากนักกีฬาต้องไปขอหนังสือรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จากนั้น กกท.จะช่วยกลั่นกรองคำขอต่างๆ แล้วจะส่งเรื่องมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ช่วยออกหนังสือนำขอรับวีซ่าให้แก่นักกีฬาและบุคคลที่เกี่ยวข้องในคณะนักกีฬา ซึ่งกรมการกงสุลจะพิจารณาหนังสือรับรองจาก กกท.ร่วมกับเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อออกหนังสือนำขอรับวีซ่า ขณะเดียวกัน เราจะส่งข้อมูลให้กับสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศเพื่อให้การสนับสนุนนักกีฬาไทยที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ตามความเหมาะสมต่อไป

รมช.การต่างประเทศ กล่าวว่า ในปี 2566 กระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนเรื่องของการขอวีซ่าให้กับนักกีฬาไทยจำนวน 19 ครั้ง ซึ่งถือว่าน้อยมาก เพราะประเทศไทยมีนักกีฬาเก่งๆ จำนวนมาก แต่กลับต้องแข่งขันกีฬาแค่ภายในประเทศ ดังนั้นการอำนวยความสะดวกดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้นักกีฬาไทยได้ไปแข่งขันต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศขอเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวกให้นักกีฬาไทย เพราะนักกีฬาไทยทุกคนเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เห็นคนไทยไปยืนอยู่ในเวทีระดับโลกอยู่แล้ว